AT&T เผชิญการรั่วไหลของข้อมูล กระทบผู้ใช้หลายล้านราย วุฒิสมาชิกเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูล
ในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญ AT&T ต้องเผชิญกับการรั่วไหลของข้อมูลครั้งใหญ่ ส่งผลกระทบต่อลูกค้ากว่า 100 ล้านราย รวมถึงลูกค้าของผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือน (MVNO) เช่น Boost Mobile, Cricket Wireless และ Straight Talk การรั่วไหลนี้เกิดขึ้นผ่านผู้ให้บริการคลาวด์บุคคลที่สามของ AT&T คือ Snowflake ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและแนวปฏิบัติในการเก็บรักษาข้อมูล
โลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ของ AT&T ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในศูนย์กลางของการรั่วไหลของข้อมูลครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าหลายล้านราย |
รายละเอียดการรั่วไหลและผลกระทบ
แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงบันทึกข้อมูลลูกค้าที่จัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของ Snowflake ระหว่างวันที่ 14 ถึง 25 เมษายน 2566 ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วย:
- บันทึกการโทรและข้อความของลูกค้าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึง 31 ตุลาคม 2565
- หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องและระยะเวลาการโทร
- หมายเลขประจำสถานีฐานตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2566
แม้ว่า AT&T อ้างว่าไม่มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขประกันสังคมหรือเนื้อหาการโทร/ข้อความถูกเปิดเผย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่าข้อมูลที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตราย เช่น:
- การโจมตีแบบฟิชชิ่ง
- การขโมยตัวตน
- การติดตามตำแหน่งผ่านการระบุตำแหน่งของสถานีฐาน
การตอบสนองของ AT&T และการจ่ายค่าไถ่
ในการดำเนินการที่ไม่ปกติ AT&T รายงานว่าได้จ่ายค่าไถ่ 5.7 บิตคอยน์ (มูลค่ากว่า 370,000 ดอลลาร์) ให้กับแฮกเกอร์รายหนึ่งเพื่อลบบันทึกที่ถูกขโมย บริษัทได้รับหลักฐานวิดีโอของการลบ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงสงสัยถึงประสิทธิภาพของวิธีการนี้
วุฒิสมาชิกเรียกร้องคำตอบ
วุฒิสมาชิก Richard Blumenthal (D-Conn.) และ Josh Hawley (R-Mo.) ได้ส่งจดหมายถึง AT&T และ Snowflake เพื่อขอคำชี้แจงในประเด็นสำคัญหลายประการ:
- เหตุใด AT&T จึงเก็บรักษาบันทึกการสื่อสารของลูกค้าอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายเดือน
- วัตถุประสงค์ของการอัปโหลดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังแพลตฟอร์มวิเคราะห์ของบุคคลที่สาม
- นโยบายและระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลของ AT&T
- วิธีที่แฮกเกอร์เข้าถึงพื้นที่ทำงานของ Snowflake
- รายละเอียดทั้งหมดของข้อมูลที่ถูกขโมยและผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
แนวปฏิบัติด้านข้อมูลของ AT&T และการใช้งาน Snowflake
AT&T ได้ปกป้องการใช้บริการคลาวด์อย่าง Snowflake โดยระบุว่าจำเป็นสำหรับ:
- การวิเคราะห์ข้อมูลแบบรวมศูนย์
- การวางแผนเครือข่าย
- การใช้ประโยชน์จากความจุ
- การพัฒนาบริการใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม การรั่วไหลนี้ได้เปิดเผยถึงข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น รวมถึง:
- รหัสผ่านที่ล้าสมัย
- การขาดการเข้าถึงไฟร์วอลล์
- การไม่มีการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย
การสอบสวนที่กำลังดำเนินอยู่และการแจ้งเตือนลูกค้า
AT&T ได้ปิดจุดเข้าถึงที่แฮกเกอร์ใช้และกำลังอยู่ในขั้นตอนการแจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ FBI และคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) กำลังสอบสวนการรั่วไหลนี้
ขณะที่สถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป ลูกค้าของ AT&T และ MVNO ที่เกี่ยวข้องได้รับคำแนะนำให้ระมัดระวังการพยายามหลอกลวงทางออนไลน์ที่อาจเกิดขึ้นและตรวจสอบบัญชีของตนเองเพื่อหากิจกรรมที่น่าสงสัย