OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว GPT-4o mini ซึ่งเป็นโมเดล AI ขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลัง มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยีด้านภาษาขั้นสูงเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีราคาที่จับต้องได้ การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในภารกิจของ OpenAI ในการทำให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
คุณสมบัติหลักและประสิทธิภาพ
GPT-4o mini มีความสามารถที่น่าประทับใจดังนี้:
- มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโมเดลขนาดเล็กอื่นๆ เช่น Gemini Flash, Claude Haiku และ GPT-3.5 Turbo ในการทดสอบประสิทธิภาพ
- โดดเด่นในด้านความฉลาดทางข้อความ การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ และงานด้านการเขียนโค้ด
- แสดงศักยภาพในการให้เหตุผลแบบหลายโหมด
- มีหน้าต่างบริบทขนาดใหญ่ถึง 128,000 โทเค็น
- มีข้อมูลความรู้ล่าสุดถึงเดือนตุลาคม 2023
![]() |
---|
ผู้หญิงมืออาชีพกำลังนำเสนอคุณสมบัติหลักและประสิทธิภาพที่น่าประทับใจของโมเดล AI GPT-4o mini ที่เพิ่งเปิดตัวโดย OpenAI |
ราคาและการเข้าถึง
โมเดลใหม่นี้มีการกำหนดราคาที่แข่งขันได้:
- 0.15 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเค็นอินพุต
- 0.60 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเค็นเอาต์พุต
โครงสร้างราคานี้ทำให้ GPT-4o mini มีความคุ้มค่ามากกว่า GPT-3.5 Turbo อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้นักพัฒนาและธุรกิจต่างๆ เข้าถึงความสามารถของ AI ขั้นสูงได้มากขึ้น
การเปิดตัวและความพร้อมใช้งาน
OpenAI กำลังใช้กลยุทธ์การเปิดตัวแบบเป็นลำดับขั้น:
- ผู้ใช้ ChatGPT แบบฟรี: สามารถเข้าถึงได้ทันที
- สมาชิก Plus และ Team: พร้อมใช้งานแล้วตอนนี้
- ลูกค้าระดับองค์กร: เริ่มเข้าถึงได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า
GPT-4o mini จะเข้ามาแทนที่ GPT-3.5 ในการสมัครสมาชิกแบบฟรี Plus และ Team สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
การพัฒนาในอนาคต
แม้ว่าปัจจุบันจะเน้นไปที่งานด้านข้อความ แต่ OpenAI มีแผนที่จะขยายความสามารถของ GPT-4o mini ดังนี้:
- การรองรับภาพ วิดีโอ และเสียงจะมาในการอัปเดตในอนาคต
- มีความเป็นไปได้ที่จะรวมเข้ากับระบบ AI แบบหลายโหมดที่กว้างขึ้น
ผลกระทบต่อวงการ AI
การเปิดตัว GPT-4o mini แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OpenAI ในการทำให้โมเดล AI ที่ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การนำเสนอตัวเลือกที่มีราคาไม่แพงโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ OpenAI วางตำแหน่งตัวเองในการขยายฐานผู้ใช้และอาจเร่งการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
ในขณะที่การแข่งขันด้าน AI ยังคงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ GPT-4o mini ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การนำ AI ไปใช้อย่างแพร่หลายและคุ้มค่ามากขึ้น จะเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าคู่แข่งจะตอบสนองอย่างไร และโมเดลใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ AI ในวงกว้างอย่างไร