ตามข้อมูลที่รั่วไหลล่าสุด โปรเซสเซอร์มือถือระดับกลางรุ่นใหม่ของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 7s Gen 3 กำลังจะเป็นการอัพเกรดที่สำคัญเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ชิปตัวใหม่นี้คาดว่าจะนำมาซึ่งการปรับปรุงที่โดดเด่นในด้านประสิทธิภาพของ CPU, GPU และ AI ซึ่งอาจเพิ่มขีดความสามารถให้กับสมาร์ทโฟนราคาประหยัด
การเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้าน
จากเอกสารการตลาดที่รั่วไหลซึ่งแชร์โดยผู้ให้ข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง Evan Blass Snapdragon 7s Gen 3 จะมอบ:
- ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 20%
- ประสิทธิภาพ GPU เร็วขึ้น 40%
- การประมวลผล AI เร็วขึ้น 30% ผ่าน NPU
- ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น 12%
การเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้รายงานว่าเทียบกับชิป Snapdragon 7s Gen 2 รุ่นก่อนหน้า แม้ว่าข้อมูลจำเพาะของฮาร์ดแวร์ที่แน่ชัดยังไม่เป็นที่ทราบ แต่การอัพเกรด GPU ที่สำคัญโดยเฉพาะอาจทำให้ 7s Gen 3 สามารถแข่งขันกับโปรเซสเซอร์ระดับกลางที่ทรงพลังกว่าได้
มุ่งเน้นความสามารถด้าน AI และเกม
Qualcomm ดูเหมือนจะเน้นประสิทธิภาพด้าน AI และเกมกับชิปใหม่นี้ NPU ที่ปรับปรุงใหม่กล่าวว่าสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้ เช่น การแปลและถอดเสียงแบบเรียลไทม์ในหลายภาษา
สำหรับเกมมือถือ 7s Gen 3 จะรวมเทคโนโลยีหลายอย่างเข้าด้วยกัน:
- Variable Rate Shading (VRS) Pro
- Adreno Frame Motion Engine (AFME)
- Adaptive Performance Engine 3.0
AFME ถูกเน้นว่าสามารถแปลงการเล่นเกม 60fps เป็น 120fps โดยไม่ต้องใช้ GPU เพิ่มเติม ซึ่งอาจนำประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นมากขึ้นมาสู่อุปกรณ์ราคาประหยัด
คุณสมบัติที่โดดเด่นอื่นๆ
ข้อมูลที่รั่วไหลยังเผยให้เห็นการอัพเกรดอื่นๆ ที่จะมาถึง 7s Gen 3:
- รองรับ Bluetooth 5.4 (เพิ่มจาก 5.2)
- Native aptX Lossless Audio
- Triple ISP สำหรับการประมวลผลกล้องขั้นสูง
- ความสามารถด้านเสียง Spatial audio
ตำแหน่งในไลน์อัพของ Qualcomm
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือแม้จะมีการกำหนด s แต่ 7s Gen 3 จะยังคงอยู่ต่ำกว่า Snapdragon 7 Gen 3 มาตรฐานและ 7+ Gen 3 ในลำดับชั้นของ Qualcomm อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงที่รั่วไหลเหล่านี้บ่งชี้ว่าอาจให้ความสมดุลที่น่าสนใจระหว่างประสิทธิภาพและราคาที่เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง
แม้ว่ายังไม่มีการกำหนดวันประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ 7s Gen 2 รุ่นก่อนหน้าเปิดตัวในเดือนกันยายน 2566 ดังนั้นเราอาจเห็น 7s Gen 3 เปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกันในปีนี้ เช่นเคย ประสิทธิภาพในการใช้งานจริงจะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดว่าชิปใหม่นี้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดระดับกลางได้จริงหรือไม่