ในขณะที่ Apple เตรียมเปิดตัวซีรีส์ iPhone 16 ในวันที่ 9 กันยายน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่กำลังจะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับไลน์ผลิตภัณฑ์ของตน โดยนำเสนอความสามารถด้าน AI ใหม่ๆ พร้อมกับกล่าวลาอุปกรณ์หลายรุ่นที่มีอยู่
การผสานเทคโนโลยี AI เป็นจุดเด่น
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของซีรีส์ iPhone 16 คือการผสานเทคโนโลยี Apple Intelligence ซึ่งเป็นโครงการ AI ของบริษัท โดยทั้งสี่รุ่นในไลน์อัพใหม่จะรองรับเทคโนโลยีนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ด้าน AI ของ Apple ฟีเจอร์ AI ที่สำคัญมีดังนี้:
- สรุปเนื้อหาเว็บเพจ อีเมล และข้อความ
- ปรับโทนการเขียนสำหรับการสื่อสาร
- สร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง (Genmoji)
- เพิ่มความสามารถของ Siri รวมถึงการผสานกับ ChatGPT
ฟีเจอร์ AI เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้งานประจำวันมีความเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ในแอปพลิเคชันต่างๆ
การปรับปรุงด้านฮาร์ดแวร์
คาดว่าซีรีส์ iPhone 16 จะมาพร้อมชิป A18 ตัวใหม่และ RAM 8GB ซึ่งจะรับประกันประสิทธิภาพที่ราบรื่นสำหรับฟีเจอร์ AI และการใช้งานโดยรวม การอัพเกรดนี้สัญญาว่าจะทำให้การเปิดแอปเร็วขึ้นและปรับปรุงความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
การยกเลิกผลิตภัณฑ์
พร้อมกับการเปิดตัวซีรีส์ใหม่ Apple จะยกเลิกการผลิตรุ่นเก่าหลายรุ่น:
- iPhone 15 Pro และ Pro Max
- iPhone 14 Plus
- iPhone 13
การเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับประเพณีของ Apple ในการเลิกผลิตรุ่น Pro ก่อนหน้าเมื่อมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าปัจจุบัน iPhone 15 Pro และ Pro Max เป็นรุ่นเดียวที่รองรับ Apple Intelligence ทำให้การยกเลิกการผลิตของพวกมันมีความสำคัญเป็นพิเศษ
การยกเลิกผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น
Apple อาจยกเลิกการผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย:
- Apple Watch Series 9
- Apple Watch Ultra 2
- Apple Watch SE 2
- AirPods 2 และ 3
- iPad mini (รุ่นที่ 6)
- iPad 10
ใครควรอัพเกรด?
iPhone 16 รุ่นพื้นฐานอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ:
- ผู้ใช้ iPhone 13 หรือรุ่นเก่ากว่า
- ผู้บริโภคที่คำนึงถึงงบประมาณแต่ต้องการฟีเจอร์ใหม่
- ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วไป
- ผู้ที่ชอบใช้เทคโนโลยี AI ก่อนใคร
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เพิ่งซื้อ iPhone รุ่นใหม่ (ซีรีส์ 14 หรือ 15) และผู้ใช้งานหนักอาจต้องพิจารณาความต้องการของตนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจอัพเกรด
ในขณะที่โลกเทคโนโลยีกำลังรอคอยงาน Glowtime ของ Apple อย่างใจจดใจจ่อ เห็นได้ชัดว่าบริษัทกำลังผลักดันการผสานเทคโนโลยี AI อย่างกล้าหาญ พร้อมกับปรับปรุงไลน์ผลิตภัณฑ์ของตน ผลกระทบทั้งหมดของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะชัดเจนขึ้นหลังจากการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กันยายน