Bang & Olufsen (B&O) ได้ยกระดับตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียมด้วยการเปิดตัวหูฟังรุ่นเรือธงใหม่ Beoplay H100 ด้วยราคาที่สูงถึง 1,549 ดอลลาร์ หูฟังไร้สายแบบครอบหูนี้ไม่ได้มีแค่ความหรูหรา แต่ยังถูกออกแบบมาให้มีความคงทนและซ่อมแซมได้ด้วย
Beoplay H100 มาพร้อมกับสเปคที่น่าประทับใจ:
- ไดรเวอร์ไทเทเนียมแบบ Electro-dynamic ขนาด 40 มม.
- ช่วงความถี่: 10Hz ถึง 20KHz (ขยายได้ถึง 40KHz ในโหมด Hi-Res)
- รองรับ Dolby Atmos และระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) ที่ได้รับการปรับปรุง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 32 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC
- การเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมรองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
สิ่งที่ทำให้ H100 โดดเด่นคือการมุ่งเน้นด้านความยั่งยืนและการที่ผู้ใช้สามารถซ่อมบำรุงได้เอง B&O ได้ออกแบบหูฟังให้เป็นแบบโมดูลาร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น:
- แถบคาดศีรษะ
- ฟองน้ำหูฟัง
- แบตเตอรี่
- ไดรเวอร์
แนวคิดการออกแบบนี้ช่วยยืดอายุการใช้งานของหูฟังได้อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นการสร้างความคุ้มค่าให้กับราคาระดับพรีเมียมสำหรับนักฟังเพลงที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
คุณภาพการผลิตนั้นหรูหราอย่างไม่ต้องสงสัย H100 มาพร้อมกับ:
- หนังแกะบนฟองน้ำหูฟังและแถบคาดศีรษะ
- โครงอลูมิเนียม
- ผ้าถักเป็นลวดลาย
- หน้าจอสัมผัสบนตัวหูฟังที่ทนต่อรอยขีดข่วน
B&O นำเสนอ H100 ในสามสีที่สง่างาม: ดำสนิท (infinite black), ทรายนาฬิกาทราย (hourglass sand) และแอปริคอตสีพระอาทิตย์ตก (sunset apricot) บริษัทยังรับประกันสินค้านานถึงห้าปีอีกด้วย
แม้ว่าราคาของ Beoplay H100 อาจเป็นอุปสรรคสำหรับหลายคน แต่การผสมผสานระหว่างวัสดุระดับพรีเมียม เทคโนโลยีล้ำสมัย และการออกแบบที่ซ่อมแซมได้ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการคุณค่าในระยะยาวจากอุปกรณ์เสียงระดับไฮเอนด์ ในขณะที่อุตสาหกรรมเครื่องเสียงกำลังเผชิญกับความกังวลด้านความยั่งยืน แนวทางของ B&O อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับหรู
สัมผัสความสงบและความหรูหราในการเดินทางด้วยหูฟัง Beoplay H100 จาก Bang & Olufsen |