OpenAI เปิดตัวแอป ChatGPT สำหรับ Windows ให้กับผู้ใช้แบบเสียเงิน

BigGo Editorial Team
OpenAI เปิดตัวแอป ChatGPT สำหรับ Windows ให้กับผู้ใช้แบบเสียเงิน

OpenAI ได้ขยายบริการ ChatGPT ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับเดสก์ท็อป Windows ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงทดสอบเบต้าสำหรับผู้ใช้ที่เสียค่าบริการ การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในความพยายามของบริษัท AI ที่จะผสานบริการของพวกเขาเข้ากับการทำงานประจำวันของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

คุณสมบัติหลักของแอป ChatGPT สำหรับ Windows

  • การเข้าถึงอย่างรวดเร็ว : แอปนี้แนะนำปุ่มลัด Alt+Space บนคีย์บอร์ด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกหน้าต่างขนาดเล็กแบบ Spotlight เพื่อโต้ตอบกับ ChatGPT ได้อย่างรวดเร็ว
  • การผสานเข้ากับระบบ : ในฐานะแอปพลิเคชันแบบสแตนด์อโลน จึงถูกออกแบบมาให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการใช้งานคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ Windows ได้เป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้งานผ่านเว็บไซต์
  • สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินเท่านั้น : ในช่วงแรก แอปนี้จะเข้าถึงได้เฉพาะผู้ใช้ที่สมัครแผน Teams, Plus, Enterprise หรือ Edu ซึ่งมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ต่อเดือน

แนวโน้มในอนาคต

OpenAI ได้บอกใบ้ถึงฟีเจอร์ที่กำลังจะมาในอนาคต ซึ่งอาจช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานบนเดสก์ท็อปอย่างมีนัยสำคัญ:

  1. การผสานเสียงขั้นสูง : ในอนาคตอันใกล้ ผู้ใช้อาจสามารถสนทนาด้วยเสียงกับ ChatGPT ในขณะที่ทำงานอื่นไปด้วยได้
  2. ความเป็นไปได้ในการบันทึกหน้าจอ : มีการคาดการณ์เกี่ยวกับความสามารถในอนาคตที่จะให้ ChatGPT สามารถให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ตามกิจกรรมบนหน้าจอได้

ความพร้อมใช้งานและการเข้าถึง

ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถดาวน์โหลดแอป ChatGPT สำหรับ Windows ได้ผ่าน Microsoft Store หรือเว็บไซต์ของ OpenAI ในขณะที่เวอร์ชันเบต้าจำกัดเฉพาะผู้ใช้แบบเสียเงิน OpenAI บอกใบ้ว่าอาจเปิดให้เข้าถึงในวงกว้างขึ้นในช่วงปลายปีนี้

แนวโน้มของอุตสาหกรรม

การเปิดตัวแอปสำหรับ Windows นี้เกิดขึ้นห้าเดือนหลังจากเวอร์ชัน macOS และสอดคล้องกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของบริษัท AI ที่พัฒนาแอปพลิเคชันเฉพาะแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเช่น Anthropic เพิ่งเปิดตัวแอป iPad สำหรับ AI ที่ชื่อ Claude และมีข่าวลือว่ากำลังพัฒนาเวอร์ชัน macOS อยู่

เมื่อ AI ยังคงพัฒนาต่อไป เราคาดว่าจะได้เห็นเครื่องมือ AI ที่ผสานรวมและเข้าถึงได้มากขึ้นในหลากหลายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ แอป ChatGPT สำหรับ Windows นี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่การทำให้ผู้ช่วย AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตดิจิทัลของเราอย่างไร้รอยต่อ