ข้อมูลหลุดล่าสุดได้เปิดเผยรายละเอียดสเปคทั้งหมดของ iPhone SE 4 รุ่นประหยัดที่กำลังจะเปิดตัว โดยบ่งชี้ถึงการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในด้านฟีเจอร์ต่างๆ แต่ยังคงรักษาระดับราคาที่จับต้องได้ คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2025 พร้อมนำความสามารถระดับเรือธงมาสู่ตระกูล SE
การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ครั้งใหญ่
iPhone SE 4 จะได้รับการปรับปรุงที่สำคัญในหลายด้าน:
- จอแสดงผล : หน้าจอ LTPS OLED ขนาด 6.06 นิ้ว (ความละเอียด 2,532 x 1,170) ความสว่างสูงสุด 800 นิต
- โปรเซสเซอร์ : ชิป A18 รุ่นล่าสุด (เช่นเดียวกับซีรีส์ iPhone 16)
- หน่วยความจำ : แรม LPDDR5X ขนาด 8GB
- ระบบกล้อง : เซ็นเซอร์หลัก Sony Exmor IMX904 48MP และกล้องหน้า 12MP
- แบตเตอรี่ : ความจุ 3,279mAh (ใหญ่กว่า SE 3 ถึง 62.5%)
ดีไซน์และฟีเจอร์สมัยใหม่
รุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากรุ่นก่อนหน้าโดย:
- ยกเลิกปุ่มโฮม Touch ID แบบดั้งเดิม
- รับเอาการออกแบบสไตล์ iPhone สมัยใหม่
- มีระบบยืนยันตัวตน Face ID
- มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
- รองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe และ Qi2 (สูงสุด 15W)
พร้อมรองรับ Apple Intelligence
การติดตั้งชิป A18 และแรม 8GB ทำให้ iPhone SE 4 รองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับความสามารถด้าน AI ในอนาคต นับเป็นครั้งแรกที่ iPhone รุ่นประหยัดมีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงเช่นนี้
ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
จากข้อมูลหลุดโดยผู้ให้ข่าว @Jukanlosreve คาดว่า iPhone SE 4 จะมีราคาระหว่าง 499 ถึง 549 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาเริ่มต้นของ SE 3 ที่ 429 ดอลลาร์ ราคาที่สูงขึ้นนี้สะท้อนถึงการปรับปรุงฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์สมัยใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
อุปกรณ์นี้มีกำหนดเริ่มการผลิตจำนวนมากในเดือนธันวาคม 2024 และวางแผนเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2025 กำหนดการนี้บ่งชี้ว่า Apple กำลังวางตำแหน่ง SE 4 ให้เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาดระดับกลางช่วงต้นปี 2025 ด้วยสเปคระดับใกล้เคียงเรือธงแต่ราคาเข้าถึงได้มากกว่า
โมเด็ม 5G ที่พัฒนาเอง
อีกหนึ่งจุดเด่นคือการใช้โมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก รหัส 'Centauri' ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาส่วนประกอบหลักด้วยตนเองของ Apple
จากสเปคที่หลุดออกมาบ่งชี้ว่า iPhone SE 4 จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับพรีเมียมแต่ไม่ต้องการจ่ายในราคาเรือธง และอาจกลายเป็นหนึ่งในการเปิดตัวที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ Apple ในปี 2025