ในขณะที่การนับถอยหลังสู่การเปิดตัวเรือธงรุ่นล่าสุดของ OnePlus ดำเนินต่อไป มีการเปิดเผยรายละเอียดใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัยและสเปคที่น่าประทับใจ ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าวงการสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
โฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เน้นย้ำถึงความสามารถด้านแบตเตอรี่ที่ปฏิวัติวงการของ OnePlus 13 ซึ่งรวมถึงการชาร์จเร็ว 100 วัตต์ และประสิทธิภาพการคายประจุ 995 เปอร์เซ็นต์ |
แบตเตอรี่และความสามารถในการชาร์จที่ปฏิวัติวงการ
OnePlus กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุมากที่สุดในสมาร์ทโฟนของบริษัท โดย OnePlus 13 จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000mAh พร้อมความสามารถในการชาร์จที่ล้ำสมัย:
- ชาร์จแบบสาย SuperVOOC 100W (ชาร์จ 0-100% ใน 36 นาที)
- รองรับการชาร์จไร้สาย 50W
- รองรับมาตรฐาน UFCS (Universal Fast Charging Standard)
- ชิป SUPERVOOC S พร้อมประสิทธิภาพการคายประจุ 99.5%
โปสเตอร์โฆษณาที่นำเสนอฟีเจอร์รีโมทคอนโทรลอินฟราเรดขั้นสูงของสมาร์ทโฟน OnePlus 13 และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ |
สเปคฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมียม
อุปกรณ์นี้ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 8 Elite รุ่นล่าสุดจาก Qualcomm พร้อมด้วย:
- แรม LPDDR5X สูงสุด 24GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 สูงสุด 1TB
- จอแสดงผล OLED ขนาด 6.82 นิ้ว ความละเอียด 2K อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมเทคโนโลยี Rain Touch 2.0
- รองรับ Dolby Vision
สมาร์ทโฟน OnePlus 13 เชื่อมต่อกับแล็ปท็อป แสดงให้เห็นความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี USB 32 Gen1 |
ระบบกล้องขั้นสูง
ชุดกล้องที่ออกแบบร่วมกับ Hasselblad ประกอบด้วย:
- กล้องหลัก Sony LYT-808 ความละเอียด 50MP พร้อม OIS
- เลนส์มุมกว้าง 50MP
- กล้องเทเลโฟโต้แบบ periscope LYT-600 ความละเอียด 50MP พร้อมซูมออปติคัล 3 เท่า
คุณสมบัติเพิ่มเติม
OnePlus 13 มาพร้อมการปรับปรุงคุณภาพการใช้งานหลายอย่าง:
- ปุ่มเลื่อน Alert Slider แบบเอกลักษณ์
- พอร์ต IR blaster
- NFC อเนกประสงค์
- พอร์ต USB-C มาตรฐาน USB 3.2
- ชุดไมโครโฟน 4 ตัวพร้อมระบบลดเสียงรบกวนด้วย AI
- ระบบลำโพงสเตอริโอที่ได้รับการปรับปรุง
- ColorOS 15 บนพื้นฐาน Android 15
อุปกรณ์นี้มีกำหนดเปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีนในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 โดยได้รับการรับรอง SIRIM สำหรับตลาดมาเลเซียแล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปิดตัวระดับนานาชาติในเร็วๆ นี้ การรับรองดังกล่าวได้รับเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ภายใต้หมายเลขรุ่น CPH2653