การอัปเดต iOS 18.1 ล่าสุดของ Apple ได้เปลี่ยน AirPods Pro 2 ให้กลายเป็นอุปกรณ์ช่วยฟังที่ทันสมัย นับเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีด้านสุขภาพสำหรับผู้บริโภค นวัตกรรมนี้มุ่งเชื่อมช่องว่างระหว่างเครื่องช่วยฟังแบบดั้งเดิมกับอุปกรณ์เสียงที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำความเข้าใจฟีเจอร์การทดสอบการได้ยินใหม่
การอัปเดต iOS 18.1 แนะนำการทดสอบการได้ยินที่ผ่านการรับรองทางคลินิก ซึ่งทำงานร่วมกับ AirPods Pro 2 โดยตรง การทดสอบต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบ ผู้ใช้จะได้ยินเสียงบี๊ปทั้งความถี่สูงและต่ำ ระหว่างการทดสอบ ระบบตัดเสียงรบกวนจะทำงานโดยอัตโนมัติ และ iPhone จะเข้าสู่โหมดห้ามรบกวนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ข้อมูลการทดสอบจะถูกเก็บไว้ในแอป Health สำหรับการอ้างอิงในอนาคต
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญต่อการทดสอบที่บ้าน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแสดงทั้งการสนับสนุนและข้อควรระวังเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ นักแก้ไขการได้ยินเน้นย้ำว่าแม้การทดสอบการได้ยินของ AirPods Pro 2 จะเป็นนวัตกรรม แต่ก็มีข้อจำกัด การทดสอบวัดเฉพาะการนำเสียงผ่านอากาศและไม่สามารถตรวจพบการอุดตันในหูหรือระบุพื้นที่เฉพาะของการสูญเสียการได้ยิน ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้ทดสอบทางคลินิกเพื่อการประเมินการได้ยินอย่างครอบคลุมและการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
อุปกรณ์ที่รองรับและข้อกำหนด
ฟังก์ชันเครื่องช่วยฟังมีให้ใช้งานเฉพาะบน AirPods Pro 2 และต้องใช้อุปกรณ์ที่ทำงานบน iOS 18.1, iPadOS 18.1 หรือ MacOS Sequoia ขึ้นไป อุปกรณ์ที่รองรับรวมถึง iPhone 11 และรุ่นใหม่กว่า รวมถึง iPad Air 3 และรุ่นที่ออกมาภายหลัง ผู้ใช้ Android ไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้ได้ แต่อาจพิจารณาใช้อุปกรณ์ Apple ที่รองรับเป็นตัวเลือกรองสำหรับการช่วยฟัง
การตั้งค่าฟีเจอร์เครื่องช่วยฟัง
ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์เครื่องช่วยฟังผ่านแอป Settings โดยไปที่การตั้งค่า AirPods และเลือก Hearing Assistance ขั้นตอนการตั้งค่ารวมถึงการใช้ผลการทดสอบการได้ยินก่อนหน้าหรือการทดสอบใหม่ สำหรับผู้ที่มีการสูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ระบบจะให้คำแนะนำในการตั้งค่าเพื่อปรับฟังก์ชันเครื่องช่วยฟังตามความต้องการของแต่ละบุคคล
การตั้งค่าแบบมีคำแนะนำสำหรับระบบช่วยการได้ยินผ่าน iPhone ของคุณ |
ผลกระทบในอนาคตและข้อจำกัด
แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในเทคโนโลยีการช่วยฟัง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือไม่ได้มีไว้เพื่อทดแทนอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือการวินิจฉัยโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่เป็นเครื่องมือที่สะดวกสำหรับผู้ใช้ในการติดตามสุขภาพการได้ยินและรับความช่วยเหลือด้านการฟังเบื้องต้นในสถานการณ์ประจำวัน