Nintendo กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญในช่วงท้ายของวงจรชีวิตเครื่อง Switch โดยยอดขายและกำไรที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการประกาศเปิดตัวคอนโซลรุ่นถัดไป
ผลประกอบการและการปรับประมาณการ
Nintendo ได้ปรับลดประมาณการทางการเงิน โดยลดเป้าหมายยอดขาย Switch จาก 13.5 ล้านเครื่อง เหลือ 12.5 ล้านเครื่องสำหรับปีการเงินสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2025 ผลประกอบการของบริษัทแสดงให้เห็นถึงความกดดันอย่างมาก โดยรายได้ลดลงเหลือ 276.7 พันล้านเยน (1.8 พันล้านดอลลาร์) และกำไรสุทธิลดลงเหลือ 27.7 พันล้านเยน (182 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งแสดงถึงการลดลงของกำไรอย่างมากถึง 69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สถานการณ์ปัจจุบันของ Switch
เครื่อง Switch ที่มีอายุเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว กำลังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณความอิ่มตัวของตลาดอย่างชัดเจน ยอดขายฮาร์ดแวร์ลดลง 31% โดยขายได้เพียง 4.72 ล้านเครื่องในช่วงหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน เทียบกับ 6.84 ล้านเครื่องในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายซอฟต์แวร์ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 28% เหลือ 70.28 ล้านชุด
ผลงานเกมล่าสุด
แม้จะมีการลดลงโดยรวม แต่เกมบางเกมยังคงทำผลงานได้ดี โดย Mario Kart 8 Deluxe ยังคงเป็นความสำเร็จที่โดดเด่น เพิ่มยอดขายอีก 2.31 ล้านชุด รวมเป็นยอดขายทั้งสิ้น 64.27 ล้านชุด เกมใหม่ๆ ก็ประสบความสำเร็จพอสมควร โดย The Legend of Zelda: Echoes of Wisdom ทำยอดขายได้ 2.58 ล้านชุดนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกันยายน ในขณะที่ Paper Mario Thousand-Year Door และ Luigi's Mansion 2 HD ขายได้ 1.94 ล้านชุด และ 1.57 ล้านชุดตามลำดับ
มองไปข้างหน้า
Nintendo ได้ยืนยันแผนการประกาศเปิดตัวผู้สืบทอด Switch ก่อนเดือนเมษายน 2025 แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะยังคงถูกเก็บเป็นความลับ ในระหว่างนี้ บริษัทยังคงสนับสนุนแพลตฟอร์ม Switch ปัจจุบันด้วยการเปิดตัวเกมใหม่ๆ รวมถึง Mario & Luigi: Brothership ในสัปดาห์นี้ และ Donkey Kong Country Returns HD ในเดือนมกราคม 2025 Nintendo ยังคงรักษากลยุทธ์ในการส่งเสริมให้แต่ละครัวเรือนมี Switch หลายเครื่อง พร้อมทั้งพยายามใช้ศักยภาพที่เหลืออยู่ของแพลตฟอร์มให้เกิดประโยชน์สูงสุด