Honor ยกระดับการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางด้วยการเปิดตัวอุปกรณ์ที่ทนทานที่สุด แสดงให้เห็นว่าความแข็งแรงทนทานและสเปคที่น่าประทับใจสามารถอยู่ร่วมกันได้ในเครื่องเดียว
คุณสมบัติด้านความทนทานที่เพิ่มขึ้น
Honor X9c สร้างมาตรฐานใหม่ด้านความแข็งแกร่งในไลน์อัพของบริษัท อุปกรณ์นี้มาพร้อมความทนทานต่อการตกจากความสูงถึง 2 เมตร และได้รับการจัดอันดับสูงสุดในการทดสอบความน่าเชื่อถือโดย SGS ภายนอกเครื่องแสดงให้เห็นถึงความทนทานต่อรอยขีดข่วนที่โดดเด่น ผ่านการทดสอบการขัดถูด้วยฝอยเหล็กถึง 3,000 ครั้ง โทรศัพท์มีระดับการกันน้ำ IP65M ที่ป้องกันน้ำฉีดได้รอบทิศทาง และสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -30°C ถึง 55°C ทำให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
พลังงานและประสิทธิภาพ
หัวใจสำคัญของ X9c คือชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,600mAh ซึ่งเพิ่มขึ้น 800mAh จากรุ่นก่อน รองรับการชาร์จเร็ว 66W เกือบสองเท่าของรุ่นก่อนที่มีกำลัง 35W ผู้ใช้สามารถคาดหวังระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน โดยสามารถรับชมวิดีโอออนไลน์ได้นานถึง 26 ชั่วโมงในการชาร์จเพียงครั้งเดียว
เทคโนโลยีหน้าจอ
สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ OLED แบบโค้งขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1,224 x 2,700 พิกเซล หน้าจอรองรับสี 10-bit และมีความสว่างสูงสุดถึง 4,000 นิต ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่แดดจ้า เพื่อเพิ่มความสบายตาในการใช้งาน Honor ได้ติดตั้งเทคโนโลยี PWM dimming ความถี่ 3,840Hz เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตาระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน
ระบบกล้อง
ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจะประทับใจกับกล้องหลักความละเอียด 108MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.67 นิ้ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยีรวมพิกเซลขั้นสูง ระบบกล้องมาพร้อมระบบกันสั่นแบบออปติคัล และรองรับการซูมแบบไร้การสูญเสียคุณภาพ 3 เท่า นอกจากนี้ยังมีกล้องมุมกว้าง 5MP และกล้องหน้า 16MP ในรูปแบบรูเจาะแบบเม็ดยา สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p
ราคาและการวางจำหน่าย
Honor X9c มีวางจำหน่ายแล้วในบางตลาด โดยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการ ในมาเลเซีย รุ่น 12GB/256GB มีราคา 1,500 ริงกิต (ประมาณ 345 ดอลลาร์) ขณะที่รุ่น 12GB/512GB ราคา 1,700 ริงกิต ลูกค้าในสิงคโปร์สามารถสั่งจองรุ่น 12GB/256GB ได้ในราคา 450 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 340 ดอลลาร์) โดยจะเริ่มจัดส่งภายในหนึ่งสัปดาห์