การผสมผสานระหว่างความโปร่งใสทางการเข้ารหัสและสิทธิความเป็นส่วนตัวนับเป็นความท้าทายในวงการเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน มีการอภิปรายที่น่าสนใจเกิดขึ้นในชุมชนการเข้ารหัสและความปลอดภัยทางไซเบอร์ เกี่ยวกับการนำระบบความโปร่งใสของคีย์มาใช้ โดยยังคงเคารพสิทธิที่จะถูกลืมตามกฎหมาย GDPR ของสหภาพยุโรป
วิธีการ Crypto-Shredding
วิธีการที่นำเสนอคือการใช้ crypto-shredding เพื่อสร้างสมดุลระหว่างข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขได้กับสิทธิความเป็นส่วนตัว แทนที่จะลบข้อมูลจริง ระบบจะเข้ารหัสข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและทำลายคีย์การเข้ารหัสเมื่อมีการร้องขอให้ลบ วิธีนี้ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของบันทึกความโปร่งใสในขณะที่ให้วิธีการปฏิบัติตามข้อกำหนด GDPR
การศึกษาเทคนิค crypto-shredding เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความโปร่งใสของข้อมูลและสิทธิความเป็นส่วนตัว |
ความท้าทายในการนำไปใช้งานจริง
การอภิปรายในชุมชนได้เผยให้เห็นข้อควรพิจารณาสำคัญหลายประการเกี่ยวกับการนำไปใช้ ระบบใช้ Public Key Directory ที่ให้บริการกับโฮสต์หลายเครื่อง โดยมีการติดตามการเปลี่ยนแปลงผ่าน Merkle tree ที่ให้หลักฐานการรวมสำหรับทุกการเปลี่ยนแปลงสถานะ สร้างเป็นบันทึกแบบเพิ่มเติมได้อย่างเดียวที่ป้องกันการแทนที่คีย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ยังคงรักษาความโปร่งใส การออกแบบนี้อนุญาตให้เพิกถอนคีย์และย้ายบัญชีได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย
สมมติฐานด้านความปลอดภัยที่สำคัญ:
- ความปลอดภัยของฟังก์ชันแฮชตระกูล SHA-2
- HKDF ในฐานะ KDF ที่มีความปลอดภัย
- AES ในฐานะการเข้ารหัสแบบบล็อก 128 บิตที่ปลอดภัย
- Counter Mode (CTR) ในฐานะการแปลงการเข้ารหัสแบบสตรีมที่ปลอดภัย
- Ed25519 สำหรับลายเซ็นดิจิทัล
- Argon2 ในฐานะฟังก์ชันแฮชรหัสผ่านแบบใช้หน่วยความจำสูงที่ปลอดภัย
ความเชื่อมโยงพิเศษระหว่างชุมชน Infosec และ Furry
ประเด็นที่ไม่คาดคิดแต่น่าสนใจในการอภิปรายคือการค้นพบความทับซ้อนที่สำคัญระหว่างชุมชน infosec และ furry สมาชิกชุมชนอธิบายว่าการเชื่อมโยงนี้เกิดจากรูปแบบการพัฒนาอินเทอร์เน็ตในอดีตและความต้องการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในพื้นที่ออนไลน์ที่คล้ายคลึงกัน การผสมผสานนี้มีอิทธิพลต่อวิธีการนำเสนอและอภิปรายเนื้อหาทางเทคนิคภายในชุมชนเหล่านี้ โดยมักรวมองค์ประกอบสร้างสรรค์เข้าไปด้วยในขณะที่ยังคงรักษาความเข้มงวดทางเทคนิค
ข้อพิจารณาในทางปฏิบัติ
การนำไปใช้งานได้จัดการกับความกังวลในโลกแห่งความเป็นจริงหลายประการ รวมถึงวิธีจัดการคำขอให้ลบข้อมูลตามกฎหมายและการยืนยันตัวตนสำหรับคำขอทำลายข้อมูล แม้ว่าโปรโตคอลจะระบุด้านเทคนิคของการจัดการคีย์และความโปร่งใส แต่ก็ตั้งใจปล่อยให้กระบวนการบริหารจัดการบางอย่าง เช่น การตรวจสอบประกาศทางกฎหมาย ให้องค์กรที่นำไปใช้จัดการนอกระบบ
คุณสมบัติของโปรโตคอล:
- ประวัติการบันทึกแบบเพิ่มเติมได้อย่างเดียวและไม่สามารถแก้ไขได้
- ความสามารถในการเข้ารหัสทำลายข้อมูลเพื่อให้สอดคล้องกับ GDPR
- การตรวจสอบการกำหนดคีย์อย่างเป็นอิสระ
- การยืนยันจุดตรวจสอบระหว่างไดเรกทอรี
- รองรับการเพิกถอนคีย์และการย้ายบัญชี
นัยสำคัญในอนาคต
การอภิปรายนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่กำลังพัฒนาในการสร้างระบบที่เคารพความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องสละความปลอดภัยหรือความโปร่งใส แม้จะไม่ได้โฆษณาว่าเป็นไปตาม GDPR โดยตรง แต่การออกแบบนี้แสดงให้เห็นว่าวิธีการทางเทคนิคสามารถปรับตัวให้เข้ากับข้อกำหนดทางกฎหมายได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อหลักการความปลอดภัยที่สำคัญ
แหล่งอ้างอิง: Key Transparency and the Right to be Forgotten