Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon X รุ่นประหยัดสำหรับแล็ปท็อป Windows ราคา 600 ดอลลาร์

BigGo Editorial Team
Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon X รุ่นประหยัดสำหรับแล็ปท็อป Windows ราคา 600 ดอลลาร์

ในการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อท้าทายความเป็นผู้นำของ Apple ในตลาดแล็ปท็อปที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM นั้น Qualcomm กำลังขยายซีรีส์ Snapdragon X ด้วยชิปรุ่นประหยัดใหม่ที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด การพัฒนานี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแนวทางของบริษัทที่จะทำให้แล็ปท็อป Windows บนสถาปัตยกรรม ARM เข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้มากขึ้น

กลยุทธ์การตลาดและการวางตำแหน่ง

Qualcomm กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตระกูล Snapdragon X อย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่รุ่น Elite ระดับไฮเอนด์จนถึงรุ่นประหยัดที่เพิ่งเปิดตัว บริษัทได้วางตำแหน่งชิปต่างๆ ในหลายระดับราคา ตั้งแต่แล็ปท็อประดับพรีเมียมราคา 1,200 ดอลลาร์ขึ้นไป จนถึงอุปกรณ์ราคาต่ำกว่า 600 ดอลลาร์ที่กำลังจะเปิดตัว สร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมเพื่อแข่งขันโดยตรงกับไลน์อัพ MacBook ของ Apple

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Snapdragon X Series ในปัจจุบัน:

  • Elite: กลุ่มระดับพรีเมียม (ราคาตั้งแต่ 42,000 บาทขึ้นไป)
  • Plus: กลุ่มระดับกลาง (ราคาประมาณ 35,000 บาท)
  • Plus Budget Version: กลุ่มระดับกลาง-ล่าง (ราคา 29,700 บาท)
  • New Entry Level: กลุ่มระดับประหยัด (ราคาประมาณ 21,000 บาท)

ข้อมูลทางเทคนิคและคุณสมบัติ

ชิป Snapdragon X รุ่นประหยัดใหม่นี้ยังคงรักษาความสามารถด้าน NPU (Neural Processing Unit) เช่นเดียวกับรุ่นพรีเมียม แต่คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการจัดวาง CPU โดยข้อมูลในวงการคาดการณ์ว่าอาจใช้การออกแบบ CPU แบบ 6 คอร์ เมื่อเทียบกับรุ่นไฮเอนด์ที่มี 12 คอร์, 10 คอร์ และ 8 คอร์ แม้จะมีจำนวนคอร์ที่ลดลง แต่ชิปนี้ยังคงรองรับการใช้งาน Copilot+ PC โดยต้องมีสเปคขั้นต่ำคือ RAM DDR5 16GB และ SSD 256GB

ข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับ Copilot+ PC:

  • แรม DDR5 ขนาด 16GB
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ขนาด 256GB
  • หน่วยประมวลผลระบบประสาท (NPU)

จุดเด่นด้านราคา

ที่ราคาเป้าหมาย 600 ดอลลาร์ แล็ปท็อป Windows รุ่นใหม่นี้จะมีราคาต่ำกว่า MacBook Air รุ่น M2 ที่ประหยัดที่สุดของ Apple ซึ่งปัจจุบันขายในราคา 799 ดอลลาร์หลังส่วนลด คาดว่าพันธมิตรของ Qualcomm จะเสนอสเปคที่แข่งขันได้ โดยอาจมี RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงถึง 512GB ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัดที่ต้องการแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานและความสามารถด้าน AI

การพัฒนาในอนาคต

มองไปข้างหน้าถึงปี 2025 Qualcomm กำลังพัฒนาคอร์ Oryon รุ่นที่สามภายใต้ Project Glymur โดยมีแผนที่จะผลิต CPU 18 คอร์ขั้นสูงที่รองรับ DX12 อย่างเต็มรูปแบบและการเร่งความเร็วในการ ray tracing ด้วยฮาร์ดแวร์ แผนงานนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของ Qualcomm ในการพัฒนาระบบนิเวศ Windows-on-ARM และรักษาแรงกดดันในการแข่งขันกับโปรเซสเซอร์ตระกูล M-series ของ Apple