Google Pixel 9 Pro Fold ก้าวกระโดดครั้งสำคัญในวิวัฒนาการสมาร์ทโฟนพับได้ แต่ยังมีพื้นที่ให้พัฒนา

ในขณะที่สมาร์ทโฟนพับได้ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รุ่นล่าสุดจาก Google แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการแก้ไขข้อบกพร่องของรุ่นแรก พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่ยังคงมีอยู่ในตลาดที่กำลังเติบโตนี้ Pixel 9 Pro Fold ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางของสมาร์ทโฟนพับได้จาก Google ที่แสดงให้เห็นทั้งการพัฒนาที่น่าประทับใจและจุดที่ยังต้องปรับปรุง

การปรับโฉมดีไซน์และการพัฒนาด้านกายภาพ

Pixel 9 Pro Fold ละทิ้งดีไซน์แบบพาสปอร์ตของรุ่นก่อน มาเป็นรูปแบบที่มีความประณีตมากขึ้น ด้วยความหนา 10.5 มิลลิเมตรเมื่อพับ ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนพับได้ที่บางที่สุดในอเมริกาเหนือ ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 257 กรัม ลดลงอย่างมากจากรุ่นแรกที่หนัก 283 กรัม โครงสร้างใหม่มาพร้อมกับกรอบแบบด้านที่เพิ่มความกระชับและความสะดวกสบายในการถือทั้งเมื่อพับและกางออก

ข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์:

• ความหนา: 10.5 มิลลิเมตร (เมื่อพับ)
• น้ำหนัก: 257 กรัม
• จอแสดงผลหลัก: รูปแบบจอสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 8 นิ้ว
• การรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์: 7 ปี
• ราคา: 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ

การพัฒนาจอแสดงผล

หน้าจอด้านในขนาด 8 นิ้วมาพร้อมกับอัตราส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมากขึ้น ช่วยปรับปรุงความเข้ากันได้ของแอพพลิเคชันเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน Google ได้เพิ่มชั้นการแสดงผลใหม่ที่ช่วยลดการสะท้อนแสงและเพิ่มความชัดเจนในสภาพแสงต่างๆ แม้จะยังไม่เทียบเท่าคุณภาพผิวด้านของคู่แข่งอย่าง OnePlus Open

การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า:

• ลดน้ำหนักลง 26 กรัม (จาก 283 กรัมเหลือ 257 กรัม)
• รูปแบบตัวเครื่อง: เปลี่ยนจากดีไซน์แบบพาสปอร์ตเป็นแบบพับได้แบบดั้งเดิม
• หน้าจอ: ปรับปรุงการจัดการแสงสะท้อนและความเข้ากันได้ของแอปพลิเคชัน
• ประสิทธิภาพ: การจัดการความร้อนที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ที่ดีขึ้น

การรองรับซอฟต์แวร์และประสิทธิภาพ

Google ให้คำมั่นในการสนับสนุนซอฟต์แวร์เป็นเวลาเจ็ดปี ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับการใช้งานระยะยาว ประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ที่ดีขึ้นช่วยแก้ปัญหาความร้อนที่มีมาก่อน แม้ว่าการปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับการใช้งานแบบพับได้ยังคงตามหลังคู่แข่ง ฟังก์ชันการใช้งานแอพพลิเคชันแบบแยกหน้าจอ แม้จะใช้งานได้ แต่อาจไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันที่ซับซ้อนกว่า

กล้องและคุณสมบัติระดับพรีเมียม

แม้จะมีคำว่า Pro ในชื่อ แต่ระบบกล้องและจอแสดงผลด้านนอกแบรนด์ Actua ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับความสามารถของ Pixel รุ่น Pro อื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการวางตำแหน่งระดับพรีเมียมและราคา 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ

มุมมองในอนาคต

แม้ว่า Pixel 9 Pro Fold จะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่สำคัญเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ยังมีพื้นที่ให้พัฒนาใน Pixel 10 Pro Fold โดยประเด็นสำคัญที่ต้องปรับปรุงได้แก่ การลดน้ำหนักให้เทียบเท่ากับคู่แข่งที่น้ำหนักต่ำกว่า 240 กรัม การเพิ่มความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และการปรับปรุงให้สอดคล้องกับคุณสมบัติของ Pixel ซีรีส์ Pro อื่นๆ มากขึ้น