ในวงการสมาร์ทโฟนถือว่าจอแสดงผลที่มีอัตรารีเฟรชสูงเป็นฟีเจอร์มาตรฐานสำหรับอุปกรณ์ระดับพรีเมียมมานานแล้ว แต่ Apple ยังคงใช้จอแสดงผล 60Hz ในรุ่นพื้นฐานของ iPhone อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปใน iPhone 17 ซีรีส์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกลยุทธ์ด้านจอแสดงผลของ Apple สำหรับอุปกรณ์กลุ่มหลัก
ข้อมูล iPhone 16 รุ่นพื้นฐานในปัจจุบัน: อัตรารีเฟรชหน้าจอที่ 60Hz
 |
|---|
| iPhone 17 Pro ที่แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังต่อฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเกรดในสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ของ Apple |
การอัปเกรดจอแสดงผลที่รอคอยมานาน
ตามข้อมูลจากผู้รู้ในห่วงโซ่อุปทานอย่าง Digital Chat Station บน Weibo ระบุว่า Apple กำลังเตรียมนำจอแสดงผลที่มีอัตรารีเฟรชสูงขึ้นมาใช้ในผลิตภัณฑ์ iPhone 17 ทุกรุ่น การอัปเกรดนี้จะแก้ไขจุดที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดของ iPhone 16 และ 16 Plus รุ่นปัจจุบัน ที่ยังคงใช้จอแสดงผล 60Hz แม้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาเริ่มต้นของ iPhone รุ่นพื้นฐานในปัจจุบัน: 799 ดอลลาร์สหรัฐ
 |
|---|
| หน้าจอส่วนติดต่อผู้ใช้ iOS แบบต่างๆ ที่แสดงให้เห็นการพัฒนาที่คาดว่าจะมีใน iPhone 17 ซีรีส์ |
ข้อมูลทางเทคนิคและความเป็นไปได้
แม้ว่าข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับอัตรารีเฟรชที่แน่นอนยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่การคาดการณ์ในอุตสาหกรรมชี้ว่า Apple อาจเลือกใช้อัตรารีเฟรช 90Hz สำหรับรุ่นพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างอัตรา 60Hz ในปัจจุบันและความสามารถ ProMotion 120Hz ที่พบในรุ่น Pro รุ่นพื้นฐานอาจไม่ได้รวมเทคโนโลยีอัตรารีเฟรชแบบปรับเปลี่ยนที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ 1-120Hz แต่แม้แต่อัตรารีเฟรชที่สูงขึ้นแบบคงที่ก็จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานได้อย่างมีนัยสำคัญ
รุ่น Pro มาพร้อมจอแสดงผล ProMotion ที่มีอัตรารีเฟรชแบบปรับอัตโนมัติตั้งแต่ 1-120Hz
 |
|---|
| iPhone 15 Pro ที่เป็นตัวแทนของเทคโนโลยีพื้นฐานปัจจุบันของ Apple ก่อนการอัปเดตที่คาดว่าจะมีมาในซีรีส์ iPhone 17 |
การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของไลน์ผลิตภัณฑ์
ควบคู่ไปกับการปรับปรุงจอแสดงผล Apple ดูเหมือนจะกำลังปรับโครงสร้างไลน์ผลิตภัณฑ์ iPhone รายงานระบุว่ารุ่น Plus อาจถูกยกเลิกเพื่อเปิดทางให้กับ iPhone 17 Air รุ่นใหม่ อุปกรณ์ที่บางเป็นพิเศษนี้มีความหนาเพียง 5-6 มิลลิเมตร สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับความสวยงามของการออกแบบควบคู่ไปกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Apple รุ่น Air คาดว่าจะมีราคาสูงกว่ารุ่น Plus ในปัจจุบัน แม้ว่าอาจจะมีข้อมูลจำเพาะที่แตกต่างกันโดยมุ่งเน้นไปที่ผู้บริโภคที่ใส่ใจในสไตล์
คาดการณ์ความหนาของ iPhone 17 Air: 5-6 มิลลิเมตร
ผลกระทบต่อตลาดและการแข่งขัน
จังหวะเวลาของการอัปเกรดนี้ดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ที่ดี เนื่องจาก Apple กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งในระบบ Android ที่นำเสนออัตรารีเฟรชที่สูงขึ้นแม้แต่ในอุปกรณ์ระดับกลางมาเป็นเวลานาน การเคลื่อนไหวนี้อาจช่วยรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันของ iPhone ในตลาดสมาร์ทโฟนปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานว่า Samsung กำลังพัฒนา Galaxy S25 Slim เพื่อแข่งขันกับ iPhone 17 Air