ในวงการสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Xiaomi ได้ก้าวสำคัญด้วยการเปิดตัว Redmi Turbo 4 ที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพอันน่าประทับใจและราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งอาจเปลี่ยนความคาดหวังในตลาดระดับนี้
ก้าวกระโดดด้านประสิทธิภาพด้วย Dimensity 8400
Redmi Turbo 4 มาพร้อมชิป MediaTek Dimensity 8400-Ultra ที่แสดงผลการทดสอบประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง โดยทำคะแนนทดสอบ CPU บน AnTuTu ได้ถึง 1,799,330 คะแนน ซึ่งสูงกว่าทั้ง Snapdragon 8s Gen 3 และ 7+ Gen 3 โดยเฉพาะประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่ทำคะแนนได้ 4,086 ในการทดสอบ 3DMark WildLife Extreme ถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพ:
- AnTuTu CPU: 1,799,330
- 3DMark WildLife Extreme: 4,086
- Geekbench 6 แบบซิงเกิลคอร์: 1,639
- Geekbench 6 แบบมัลติคอร์: 6,500
Redmi Turbo 4 โชว์ศักยภาพของชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8400-Ultra ที่ทรงพลัง ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง |
นวัตกรรมด้านแบตเตอรี่และการชาร์จ
จุดเด่นที่น่าสนใจคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,550 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบบสาย 90W การผสมผสานนี้รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสำหรับผู้ใช้งานหนัก พร้อมเวลาชาร์จที่รวดเร็ว ความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่นี้ถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับกลาง
ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ:
- หน้าจอ: ขนาด 6.77 นิ้ว เทคโนโลยี LTPS OLED ความละเอียด 1220p อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างสูงสุด 3,200 นิต
- แบตเตอรี่: ความจุ 6,550 mAh พร้อมการชาร์จเร็ว 90W
- กล้องหลัก: ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 พร้อมระบบกันสั่น OIS
- กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP
- มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่น: ได้รับการรับรองมาตรฐาน IP66/68/69
หน้าจอและความสามารถด้านกล้อง
Redmi Turbo 4 มาพร้อมหน้าจอ LTPS OLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด 1220p และอัตรารีเฟรช 120 Hz หน้าจอมีความสว่างสูงสุดถึง 3,200 นิต และป้องกันด้วย Gorilla Glass 7i ระบบกล้องประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลพร้อม OIS และกล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลสำหรับเซลฟี่
ดีไซน์อันสง่างามของ Redmi Turbo 4 ผสานกับคุณสมบัติด้านจอแสดงผลและกล้องที่ล้ำสมัย ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในตลาดระดับกลาง |
ราคาและการวางจำหน่าย
Xiaomi วางตำแหน่งราคา Redmi Turbo 4 อย่างน่าสนใจ โดยเริ่มต้นที่ 2,000 หยวน (ประมาณ 9,600 บาท) สำหรับรุ่น 12/256GB ไปจนถึง 2,500 หยวน (ประมาณ 12,000 บาท) สำหรับรุ่นท็อป 16/512GB โดยวางจำหน่ายในจีนแล้ว และคาดว่าจะเปิดตัวทั่วโลกในชื่อ POCO X7 Pro ในวันที่ 9 มกราคม โดยในยุโรปอาจเริ่มต้นที่ 369 ยูโร
รายละเอียดรุ่นความจุและราคา:
- รุ่น 12GB/256GB: ราคา 2,000 หยวน (ประมาณ 9,625 บาท)
- รุ่น 16GB/256GB: ราคา 2,200 หยวน (ประมาณ 10,500 บาท)
- รุ่น 12GB/512GB: ราคา 2,300 หยวน (ประมาณ 11,025 บาท)
- รุ่น 16GB/512GB: ราคา 2,500 หยวน (ประมาณ 11,900 บาท)
คุณสมบัติขั้นสูงและซอฟต์แวร์
เครื่องมาพร้อมคุณสมบัติการเชื่อมต่อทันสมัยทั้ง Bluetooth 6.0, NFC และรองรับ Wi-Fi 6 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ HyperOS 2.0 ล่าสุดของ Xiaomi บนพื้นฐาน Android 15 และได้รับการรับรองมาตรฐาน IP66/68/69 สำหรับการกันน้ำและฝุ่น ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องสำหรับการใช้งานประจำวัน