ตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ยังคงพัฒนาด้วยนวัตกรรมและการปรับปรุงใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ผลการทดสอบประสิทธิภาพล่าสุดได้เผยรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นเรือธงที่กำลังจะเปิดตัวของ Motorola ซึ่งบ่งชี้ถึงการอัพเกรดประสิทธิภาพการประมวลผลที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลประสิทธิภาพ
Motorola Razr Ultra 2025 ที่ถูกระบุในรายการทดสอบของ Geekbench แสดงคะแนนทดสอบที่น่าประทับใจด้วยชิป Snapdragon 8 Elite โดยได้คะแนนแบบซิงเกิลคอร์ที่ 2,782 คะแนน และมัลติคอร์ที่ 8,457 คะแนน แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้อาจจะต่ำกว่าการใช้งาน Snapdragon 8 Elite ทั่วไปเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านความร้อนที่มีในสมาร์ทโฟนแบบพับได้
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | Snapdragon 8 Elite SoC |
หน่วยความจำแรม | 12GB |
ระบบปฏิบัติการ | Android 15 |
คะแนน Geekbench | แบบซิงเกิลคอร์: 2,782 / มัลติคอร์: 8,457 |
การจัดวางซีพียู | 2 คอร์ @ 4.32GHz + 6 คอร์ @ 3.53GHz |
จีพียู | Adreno 830 |
กำหนดเปิดตัว | มีนาคม/เมษายน 2568 |
การกำหนดค่าฮาร์ดแวร์
ผลการทดสอบเผยให้เห็นการกำหนดค่าที่ทรงพลังด้วยโปรเซสเซอร์แบบ 8 คอร์ ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ที่ความเร็ว 4.32GHz และอีก 6 คอร์ที่ความเร็ว 3.53GHz อุปกรณ์มาพร้อมกับ RAM 12GB และทำงานบน Android 15 แสดงให้เห็นถึงการติดตั้งฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมียมที่สามารถแข่งขันกับสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นเรือธงอื่นๆ ในตลาดได้
กำหนดการเปิดตัว
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมระบุว่าอาจมีการเปิดตัวเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยอาจเปิดตัวในเดือนมีนาคมหรือเมษายน 2025 กำหนดการที่เร็วขึ้นนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในตารางการเปิดตัวของ Motorola และอาจสร้างความได้เปรียบในตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ที่มีการแข่งขันสูง
การตั้งชื่อผลิตภัณฑ์
ที่น่าสนใจคือ Motorola อาจจะรวมรูปแบบการตั้งชื่อให้เป็นหนึ่งเดียวทั่วโลก ในขณะที่รุ่นก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักในชื่อ Razr+ ในอเมริกาเหนือและ Razr Ultra ในภูมิภาคอื่นๆ รุ่นใหม่นี้อาจใช้ชื่อ Razr Ultra 2025 เป็นชื่อเดียวกันทั่วโลก เพื่อทำให้ไลน์อัพผลิตภัณฑ์เข้าใจง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภค
คุณสมบัติที่คาดว่าจะมี
แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับหน้าจอ ระบบกล้อง และความจุแบตเตอรี่ยังไม่ถูกเปิดเผย แต่คาดว่าอุปกรณ์จะยังคงมีการออกแบบที่กันน้ำและหน้าจอด้านนอกขนาดใหญ่เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า คาดว่าจะมีการปรับปรุงความสามารถในการชาร์จไร้สาย โดยความเร็วในการชาร์จอาจเกินกว่าขีดจำกัด 15W ของรุ่นก่อนหน้า