Google เปิดตัว Gemini Deep Research บนแอปมือถือ ช่วยให้การค้นคว้าข้อมูลบนเว็บง่ายขึ้น

BigGo Editorial Team
Google เปิดตัว Gemini Deep Research บนแอปมือถือ ช่วยให้การค้นคว้าข้อมูลบนเว็บง่ายขึ้น

ความก้าวหน้าล่าสุดด้านความสามารถในการวิจัยด้วย AI ของ Google ได้บรรลุขั้นสำคัญ ด้วยการขยาย Gemini Deep Research สู่แพลตฟอร์มมือถือ การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้การค้นคว้าข้อมูลบนเว็บแบบครอบคลุมสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ใช้บนอุปกรณ์ต่างๆ

ทำความเข้าใจ Gemini Deep Research

Gemini Deep Research เป็นแนวทางขั้นสูงในการทำวิจัยบนเว็บแบบอัตโนมัติ ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้รวบรวมและประมวลผลข้อมูลออนไลน์ ระบบทำงานโดยสร้างแผนการวิจัยที่ปรับแต่งตามคำค้นของผู้ใช้ จากนั้นจะค้นหาเว็บโดยอัตโนมัติเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นรายงานแบบครบถ้วน ช่วยขจัดความจำเป็นที่ผู้ใช้ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาและรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งด้วยตนเอง

การรองรับการใช้งานบนมือถือและการเข้าถึง

การขยายสู่แพลตฟอร์มมือถือล่าสุดทำให้ Deep Research สามารถใช้งานได้ผ่านแอป Gemini ทั้งบนระบบ iOS และ Android ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้โดยเลือกตัวเลือก Deep Research จากตัวเลือกโมเดลที่ด้านบนของหน้าจอ การรองรับการใช้งานบนมือถือนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเริ่มและจัดการโครงการวิจัยได้ในขณะเดินทาง รักษาประสิทธิภาพการทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

  • ค่าสมาชิกรายเดือน: 19.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
  • แพลตฟอร์มที่รองรับ: เว็บ, iOS, Android
  • คุณสมบัติ:
    • การวางแผนงานวิจัยอัตโนมัติ
    • ความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
    • ส่งออกไปยัง Google Docs
    • การแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย
    • การปรับแต่งแผนงานวิจัย

รูปแบบการสมัครสมาชิกและราคา

การเข้าถึง Gemini Deep Research มีให้บริการเฉพาะผ่านการสมัครสมาชิก Gemini Advanced ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน Google One AI Premium ในราคาเดือนละ 19.99 ดอลลาร์สหรัฐ ผู้สมัครใหม่สามารถรับสิทธิ์ทดลองใช้ฟรี 1 เดือนก่อนที่จะเริ่มรอบการเรียกเก็บเงินปกติ ช่วยให้สามารถประเมินความสามารถของบริการได้โดยไม่ต้องผูกมัดทันที

ฟีเจอร์ขั้นสูงและฟังก์ชันการทำงาน

จุดเด่นของ Deep Research คือความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเริ่มคำขอวิจัยหลายรายการได้พร้อมกัน ระบบมีโควต้าในตัวเพื่อจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการแจ้งเตือนที่ชัดเจนเมื่อผู้ใช้ใกล้ถึงขีดจำกัดรายวัน ผู้ใช้ยังสามารถส่งออกผลการวิจัยไปยัง Google Docs แชร์ผ่านอีเมล หรือสร้างลิงก์ที่แชร์ได้สำหรับการทำงานร่วมกัน

การจัดการงานวิจัยและการทำงานร่วมกัน

แพลตฟอร์มนี้นำเสนอเครื่องมือจัดการงานวิจัยแบบครบวงจร รวมถึงความสามารถในการตรวจสอบและแก้ไขแผนการวิจัยก่อนดำเนินการ ติดตามโครงการวิจัยที่กำลังดำเนินการหลายโครงการ และสลับระหว่างเซสชันการวิจัยต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ความสามารถในการแชร์ครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลหลักอย่าง LinkedIn, Facebook, X และ Reddit เอื้อต่อการทำวิจัยร่วมกันและการแบ่งปันความรู้