Google Chrome กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และการทำงานของส่วนขยาย การอัปเดตเหล่านี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการของ Chrome ที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นกับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ การพัฒนาล่าสุดรวมถึงฟีเจอร์การปกป้อง IP address และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการรองรับส่วนขยายที่ส่งผลกระทบต่อเครื่องมือยอดนิยมอย่างตัวบล็อกโฆษณา
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน Chrome:
- การป้องกัน IP: จำกัดเฉพาะในโหมด Incognito
- เฟรมเวิร์กส่วนขยาย: จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ Manifest V3
- การรองรับส่วนขยายสำหรับองค์กร: ขยายเวลาจนถึงเดือนมิถุนายน 2025
- การจัดการแท็บ: ฟีเจอร์ใหม่ในการจัดกลุ่มและจัดระเบียบ
ฟีเจอร์ปกป้อง IP ใหม่ของ Chrome
Google กำลังแนะนำ IP Protection ฟีเจอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวซึ่งจำกัดการมองเห็น IP address ของผู้ใช้จากบุคคลที่สาม โดยในช่วงแรกจะใช้ได้เฉพาะใน Incognito mode ฟีเจอร์นี้ทำงานคล้ายกับระบบ Private Relay ของ Apple โดยจะส่งข้อมูลการเข้าชมผ่านรีเลย์สองตัวแยกกัน ทำให้ไม่มีฝ่ายใดแม้แต่ Google สามารถเห็นทั้งตัวตนของผู้ใช้และปลายทางการท่องเว็บพร้อมกันได้ ระบบนี้ยังคงรักษาฟังก์ชันการทำงานที่จำเป็นของเว็บไว้ พร้อมมอบการปกป้องความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นระหว่างการท่องเว็บแบบส่วนตัว
ผลกระทบต่อระบบนิเวศของส่วนขยาย
กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเฟรมเวิร์กส่วนขยายของ Chrome ด้วยการบังคับใช้ Manifest V3 การอัปเดตนี้ส่งผลให้ส่วนขยายที่ยังไม่ได้ปรับตัวให้เข้ากับเฟรมเวิร์กใหม่ต้องยุติการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อตัวบล็อกโฆษณายอดนิยมอย่าง uBlock Origin เวอร์ชันดั้งเดิมของ uBlock Origin กำลังถูกปิดการใช้งาน แม้จะมีเวอร์ชัน Lite ที่รองรับ Manifest V3 ให้ใช้งานแต่มีข้อจำกัดมากกว่า ส่วนผู้ใช้องค์กรได้รับการขยายเวลาถึงเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
เบราว์เซอร์ทางเลือกที่ยังรองรับส่วนขยาย V2:
- Firefox: รองรับการใช้งาน uBlock Origin ตัวเต็มรูปแบบ
- Brave: ยังคงรองรับส่วนขยาย V2 ที่เลือกสรรแล้ว
- Vivaldi: มีความสามารถในการบล็อกโฆษณาในตัว
การปรับปรุงการจัดการแท็บ
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดระเบียบประสบการณ์การท่องเว็บได้ดีขึ้น Chrome ได้เพิ่มความสามารถในการจัดการแท็บ ผู้ใช้สามารถสร้างกลุ่มแท็บแบบแยกสีได้ ทำให้ง่ายต่อการจัดระเบียบและเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถย่อกลุ่มเพื่อประหยัดพื้นที่ เพิ่มหรือลบแท็บจากกลุ่ม และนำทางระหว่างแท็บที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้มอบความยืดหยุ่นในการจัดการคอลเลกชันแท็บในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพของเบราว์เซอร์
มองไปข้างหน้า
การอัปเดตเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Google ในการสร้างสมดุลระหว่างการปกป้องความเป็นส่วนตัวกับฟังก์ชันการใช้งาน ในขณะที่ฟีเจอร์ IP Protection แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ การจำกัดส่วนขยายก็ได้จุดประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ ผู้ใช้บางรายกำลังมองหาเบราว์เซอร์ทางเลือกที่ยังคงรองรับส่วนขยายเวอร์ชันเก่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องพึ่งพาความสามารถในการบล็อกโฆษณาแบบครอบคลุม