Deutsche Telekom ยืนยันการเปิดตัวโทรศัพท์ AI ในช่วงปลายปี 2025 และขยายตลาดในยุโรปในปี 2026

BigGo Editorial Team
Deutsche Telekom ยืนยันการเปิดตัวโทรศัพท์ AI ในช่วงปลายปี 2025 และขยายตลาดในยุโรปในปี 2026

อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่มุ่งสู่อุปกรณ์ที่ผสานเทคโนโลยี AI โดยผู้เล่นรายใหญ่ในวงการกำลังพัฒนาโซลูชันที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราโต้ตอบกับอุปกรณ์มือถือ ล่าสุด Deutsche Telekom ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับโทรศัพท์ AI นวัตกรรมของพวกเขา ซึ่งได้พัฒนาจากแนวคิดสู่ผลิตภัณฑ์จริงพร้อมกำหนดการเปิดตัวที่ชัดเจน

AI Phone ของ Deutsche Telekom แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สัญญาว่าจะยกระดับการโต้ตอบของผู้ใช้
AI Phone ของ Deutsche Telekom แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สัญญาว่าจะยกระดับการโต้ตอบของผู้ใช้

Deutsche Telekom เปิดเผยกำหนดการเปิดตัวโทรศัพท์ AI

ที่งาน Mobile World Congress (MWC) 2025 ทาง Deutsche Telekom ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าโทรศัพท์ AI ที่หลายคนรอคอยจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวซึ่งเคยถูกเปิดตัวในรูปแบบแนวคิดที่งาน MWC 2024 จะขยายตลาดไปยังประเทศสำคัญในยุโรปในปี 2026 การประกาศนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ของ Deutsche Telekom ที่จะผสานปัญญาประดิษฐ์เข้าไปในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง

กำหนดการเปิดตัว:

  • การเปิดตัวครั้งแรก: ช่วงครึ่งหลังของปี 2025
  • การขยายตลาดในยุโรป: ปี 2026

Perplexity AI ขับเคลื่อนประสบการณ์อุปกรณ์ใหม่

โทรศัพท์ AI จะขับเคลื่อนด้วย Perplexity AI ซึ่งเป็นปัญญาหลักเบื้องหลังวิธีการโต้ตอบกับสมาร์ทโฟนที่ไม่เหมือนใคร ต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปที่พึ่งพาอินเทอร์เฟซแบบแอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ของ Deutsche Telekom จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Magenta AI ที่ออกแบบเฉพาะโดยมี Perplexity Assistant เป็นศูนย์กลาง นี่เป็นการคิดใหม่อย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับประสบการณ์ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งอาจกำจัดความจำเป็นในการสลับระหว่างแอปพลิเคชันหลายตัวสำหรับงานที่แตกต่างกัน

ความสามารถในการรับข้อมูลหลายรูปแบบ

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของโทรศัพท์ AI ที่กำลังจะเปิดตัวคือระบบการรับข้อมูลหลายรูปแบบ ผู้ใช้จะสามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์ผ่านหลายช่องทางพร้อมกัน ทั้งคำสั่งเสียง การป้อนข้อความ และการค้นหาด้วยภาพผ่านกล้อง ความยืดหยุ่นนี้คล้ายคลึงกับแนวทางที่เห็นในการพัฒนา AI ล่าสุดอย่าง Apple's Visual Intelligence แต่ดูเหมือนว่าจะผสานความสามารถเหล่านี้เข้ากับระบบปฏิบัติการหลักอย่างลึกซึ้งมากกว่าเป็นเพียงคุณสมบัติเสริม

การทำงานที่ราบรื่นโดยไม่ต้องสลับแอป

โทรศัพท์ AI มีเป้าหมายที่จะทำให้งานทั่วไปบนสมาร์ทโฟนง่ายขึ้นโดยกำจัดความจำเป็นในการสลับระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ ตามข้อมูลจาก Deutsche Telekom ผู้ใช้จะสามารถสั่งให้ Perplexity Assistant จัดการกับงานประจำวัน เช่น การแปลข้อความหรือคำพูด การจัดตารางนัดหมาย การเขียนและส่งอีเมล และแม้กระทั่งการช้อปปิ้งออนไลน์ ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเปิดแอปพลิเคชันแยกสำหรับแต่ละฟังก์ชัน

ขยายพันธมิตรด้าน AI

ในขณะที่ Perplexity AI เป็นพื้นฐานของปัญญาของอุปกรณ์ Deutsche Telekom ได้ยืนยันการผสาน AI เพิ่มเติมที่จะมาในช่วงฤดูร้อนนี้ โทรศัพท์ AI จะรวม Google Cloud AI, Gemini Multimodal Live API, ElevenLabs และ Picsart เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงระบบนิเวศของความสามารถ AI ที่ครอบคลุมทั้งการประมวลผลข้อความ เสียง และภาพ แนวทางแบบหลายพันธมิตรนี้อาจให้อุปกรณ์มีความสามารถด้าน AI ที่หลากหลายมากกว่าโซลูชันจากผู้ให้บริการรายเดียว

คุณสมบัติหลักของโทรศัพท์ AI จาก Deutsche Telekom:

  • ระบบปฏิบัติการ Magenta AI ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
  • ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนโดย Perplexity AI
  • รองรับการป้อนข้อมูลหลายรูปแบบ (เสียง, ข้อความ, กล้อง)
  • การทำงานโดยไม่ต้องใช้แอปพลิเคชัน
  • การผสานรวม AI เพิ่มเติม: Google Cloud AI, Gemini Multimodal Live API, ElevenLabs, Picsart

การเข้าถึงบนอุปกรณ์ที่มีอยู่

สำหรับลูกค้าที่ไม่ซื้อฮาร์ดแวร์โทรศัพท์ AI โดยเฉพาะ Deutsche Telekom กำลังทำให้องค์ประกอบของประสบการณ์นี้สามารถใช้งานได้ผ่านแอป MeinMagenta บน Google Play บนสมาร์ทโฟนที่มีจำหน่ายผ่าน Deutsche Telekom ผู้ช่วยสามารถเข้าถึงได้โดยตรงจากหน้าจอล็อคหรือโดยการแตะปุ่มเปิด/ปิดสองครั้ง ซึ่งนำฟังก์ชัน AI มาสู่เจ้าของอุปกรณ์ที่มีอยู่

ตำแหน่งทางการตลาดและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม

ในฐานะบริษัทแม่ของ T-Mobile การก้าวเข้าสู่อุปกรณ์ที่เน้น AI ของ Deutsche Telekom บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในวิธีที่บริษัทโทรคมนาคมวางตำแหน่งตัวเองในตลาดสมาร์ทโฟน แทนที่จะแข่งขันเพียงเรื่องความสามารถของเครือข่ายหรือสเปกฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม บริษัทดูเหมือนจะสร้างความแตกต่างผ่านประสบการณ์ผู้ใช้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI แนวทางนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นๆ มองการนำเสนออุปกรณ์ในปีต่อๆ ไป