Huawei ได้ขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงด้วยการเปิดตัว FreeBuds 6 หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดของบริษัทที่มาพร้อมการปรับปรุงที่สำคัญในด้านคุณภาพเสียง, การออกแบบ และเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน เปิดตัวพร้อมกับสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นใหม่ Pura X หูฟังแบบกึ่งเปิดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Huawei ในตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียมด้วยคุณสมบัติขั้นสูงในราคาที่แข่งขันได้
รูปแบบที่ออกแบบใหม่เพื่อความสบายที่เพิ่มขึ้น
FreeBuds 6 ยังคงรูปทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นก่อนหน้า แต่มาพร้อมกับการปรับปรุงที่โดดเด่น Huawei ได้ลดขนาดก้านลง 12% และลดน้ำหนักโดยรวม โดยหูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียง 4.9 กรัม—เบากว่ารุ่นก่อนหน้า 9% เคสชาร์จมีน้ำหนัก 40.3 กรัม ทำให้ทั้งชุดพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น การปรับปรุงการออกแบบเหล่านี้ไม่ได้ทำขึ้นอย่างไร้เหตุผล Huawei อ้างว่าหูฟังได้รับการออกแบบตามข้อมูลที่รวบรวมจากรูปทรงหูหลายพันรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะสวมใส่สบายสำหรับผู้ใช้ที่หลากหลาย
คุณสมบัติหลักของ Huawei FreeBuds 6:
- น้ำหนัก: หูฟังแต่ละข้าง 4.9 กรัม, เคสชาร์จ 40.3 กรัม
- ไดรเวอร์: ไดรเวอร์แบบไดนามิกขนาด 11 มม. + ทวีตเตอร์แบบแบนขนาดเล็ก
- การตอบสนองความถี่: 14 Hz ถึง 48 kHz
- คุณภาพเสียง: 48 kHz/24-bit
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: 5.5 ชั่วโมง (ชาร์จครั้งเดียว), 36 ชั่วโมง (รวมเคส) โดยไม่เปิด ANC
- การชาร์จเร็ว: ชาร์จ 5 นาที ใช้งานได้ 2.5 ชั่วโมง
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2, แบนด์วิดท์ 2.3 Mbps
- ความทนทานต่อน้ำ: มาตรฐาน IP54
- สี: ขาว, ดำ, ม่วง
- ราคา: 999 หยวน (ประมาณ 138 ดอลลาร์สหรัฐ/125 ยูโร)
![]() |
---|
ผู้ใช้กำลังเพลิดเพลินไปกับความสบายและดีไซน์ของ Huawei FreeBuds 6 |
ระบบเสียงไดรเวอร์คู่ขั้นสูง
สิ่งที่ทำให้ FreeBuds 6 โดดเด่นในตลาดหูฟังไร้สายที่มีการแข่งขันสูงคือระบบเสียงไดรเวอร์คู่ที่ซับซ้อน หูฟังแต่ละข้างรวมไดรเวอร์แบบไดนามิกขนาด 11 มม. กับทวีตเตอร์แบบแบนขนาดเล็ก ทำให้มีช่วงการตอบสนองความถี่ที่น่าประทับใจตั้งแต่ 14 Hz ถึง 48 kHz ตามข้อมูลของ Huawei นี่ทำให้ FreeBuds 6 เป็นหูฟังแบบกึ่งเปิดรุ่นแรกที่มีหน่วยเสียงคู่ในขณะที่รองรับเสียงคุณภาพสูง 48 kHz/24-bit
คุณภาพเสียงได้รับการปรับแต่งอย่างมืออาชีพจาก Central Conservatory of Music มอบโหมดเสียงทั้งแบบคลาสสิกและสมดุลให้กับผู้ใช้ หูฟังยังมีเทคโนโลยีเสียงแบบ spatial audio พร้อมการติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ แม้ว่าฟังก์ชันนี้จะจำกัดเฉพาะโทรศัพท์ Huawei บางรุ่นและแอป Huawei Music เท่านั้น
![]() |
---|
ชิ้นส่วนที่แสดงถึงเทคโนโลยีเสียงขั้นสูงของ Huawei FreeBuds 6 |
การตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี AI
Huawei ได้นำเทคโนโลยี AI แบบ generative มาใช้สำหรับระบบการตัดเสียงรบกวนของ FreeBuds 6 การลดเสียงรบกวนแบบหลายช่องสามารถรองรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนสูงถึง 95 dB หรือความเร็วลมที่ 8 เมตร/วินาที ไมโครโฟนแบบ bone conduction ทำงานร่วมกับอัลกอริธึมลดเสียงรบกวนเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการโทรที่ชัดเจนแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น งานปาร์ตี้ที่มีเสียงดัง งานกีฬาที่มีผู้คนแออัด หรือสถานที่ก่อสร้าง
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจและการชาร์จเร็ว
ประสิทธิภาพแบตเตอรี่เป็นอีกจุดเด่นของ FreeBuds 6 ผู้ใช้สามารถคาดหวังการเล่นต่อเนื่องได้นานถึง 5.5 ชั่วโมงในการชาร์จครั้งเดียวโดยไม่เปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวน ซึ่งขยายเป็นรวมทั้งหมด 36 ชั่วโมงเมื่อรวมกับเคสชาร์จ เมื่อเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวน อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะลดลงประมาณ 20-25% หูฟังรองรับการชาร์จเร็ว โดยการชาร์จเพียง 5 นาทีจะให้การเล่นนาน 2.5 ชั่วโมง Huawei ยังได้นำเทคโนโลยีการชาร์จอัจฉริยะมาใช้ซึ่งรายงานว่าช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ถึง 37%
การเชื่อมต่อและคุณสมบัติเพิ่มเติม
FreeBuds 6 ใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.2 ให้แบนด์วิธ 2.3 Mbps สำหรับการเชื่อมต่อที่เสถียรและประสิทธิภาพ low-latency สำหรับการเล่นเกม รองรับการจับคู่กับหลายอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น หูฟังได้รับการจัดอันดับ IP54 สำหรับการป้องกันน้ำและฝุ่น ทำให้เหมาะสำหรับการออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้ง
การควบคุมแบบสัมผัสบนก้านหูฟังช่วยให้จัดการการเล่น การโทร และการปรับระดับเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในประเทศจีน หูฟังมาพร้อมกับผู้ช่วย AI ของ Huawei ที่ชื่อ Xiaoyi (รู้จักในชื่อ Celia ในตลาดต่างประเทศ) ซึ่งมีคุณสมบัติเช่น การแปลภาษา 21 ภาษา การแปลแบบเรียลไทม์ การตั้งนาฬิกาปลุก การเล่นเพลง และการนำทาง
![]() |
---|
บุคคลที่กำลังสัมผัสประสบการณ์คุณสมบัติการเชื่อมต่อของ Huawei FreeBuds 6 |
ราคาและความพร้อมใช้งาน
Huawei FreeBuds 6 มีราคา 999 หยวน (ประมาณ 138 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 125 ยูโร) และมีให้เลือกในสีขาว ดำ และม่วง หูฟังวางจำหน่ายแล้วในประเทศจีน โดยเริ่มการพรีเซลในวันที่ 20 มีนาคม 2025 ผ่าน VMall.com และเริ่มการขายเต็มรูปแบบในวันที่ 28 มีนาคม 2025 ยังไม่มีการประกาศความพร้อมใช้งานในต่างประเทศ