ฟีเจอร์ AI อันล้ำสมัยของ Apple กำลังทยอยเปิดตัวในภูมิภาคต่างๆ โดยบางตลาดยังคงรอการใช้งานเต็มรูปแบบ หลังจากที่เพิ่งขยาย Apple Intelligence ไปยังสหภาพยุโรปด้วย iOS 18.4 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้กำลังเตรียมนำความสามารถด้าน AI มาสู่จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ท้าทายแต่สำคัญที่สุดของบริษัท
การเปิดตัวในจีนคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมพร้อมกับ iOS 18.5
มีรายงานว่า Apple วางแผนที่จะเปิดตัว Apple Intelligence ในจีนภายในเดือนพฤษภาคม 2025 ซึ่งตรงกับการเปิดตัว iOS 18.5 การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญของบริษัท ซึ่งประสบกับยอดจัดส่ง iPhone ที่ลดลงติดต่อกัน 7 ไตรมาสในภูมิภาคนี้ ตามการวิเคราะห์ตลาด ยอดจัดส่งของ Apple ในจีนลดลง 9 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่บริษัทยังคงเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งในประเทศอย่าง Xiaomi, Huawei, Vivo และ Oppo
ฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่มีให้ใช้งานในปัจจุบัน
ในขณะที่บางฟีเจอร์เช่น Personalized Siri ถูกเลื่อนออกไป Apple Intelligence ยังคงมอบฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญให้กับอุปกรณ์ที่รองรับ Visual Intelligence ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่เปิดตัวไปแล้ว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชี้กล้อง iPhone ไปที่วัตถุ ธุรกิจ พืช หรือข้อความเพื่อรับข้อมูลตามบริบทและตัวเลือกการโต้ตอบ ผู้ใช้สามารถระบุพืชและสัตว์ ตรวจสอบเวลาทำการของธุรกิจ แปลข้อความ และแม้กระทั่งถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังมองผ่านอินเทอร์เฟซแบบ ChatGPT ที่ผสานรวมเข้าด้วยกัน
ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์และข้อกำหนด
ผู้ใช้ iPhone ไม่ทุกคนสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Apple Intelligence เช่น Visual Intelligence ได้ ปัจจุบัน ฟีเจอร์นี้ทำงานบน iPhone 16 ที่ใช้ iOS 18.2 หรือใหม่กว่า และบน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่ใช้ iOS 18.4 หรือใหม่กว่า ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งาน Apple Intelligence ในการตั้งค่าด้วย สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้ผ่านวิธีต่างๆ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ รวมถึงปุ่ม Camera Control บน iPhone 16 หรือผ่านทางลัดที่กำหนดเองได้บนอุปกรณ์ที่รองรับ
อุปกรณ์ที่รองรับ Apple Intelligence:
- ซีรีส์ iPhone 16 (iOS 18.2 ขึ้นไป)
- iPhone 15 Pro และ Pro Max (iOS 18.4 ขึ้นไป)
- iPhone 16E (iOS 18.3 ขึ้นไป)
กลยุทธ์ทางการตลาดและผลกระทบต่อยอดขาย
Apple สังเกตเห็นความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการมี Apple Intelligence และประสิทธิภาพการขาย iPhone โดยมีรายงานยอดขายที่สูงขึ้นในภูมิภาคที่มีบริการนี้ รูปแบบนี้บ่งชี้ว่าการนำ Apple Intelligence มาสู่จีนอาจช่วยพลิกสถานการณ์ส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงของบริษัทในภูมิภาคนี้ ผู้บริโภคชาวจีนหันไปชื่นชอบแบรนด์ท้องถิ่นที่นำเสนอการออกแบบและฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์พับได้ ซึ่ง Apple ยังไม่ได้นำเสนอในผลิตภัณฑ์ของตน
ช่องว่างด้านนวัตกรรมในตลาดจีน
หนึ่งในความท้าทายสำคัญของ Apple ในจีนคือการถูกมองว่าขาดนวัตกรรมเมื่อเทียบกับคู่แข่งในประเทศ ในขณะที่ Apple ยังคงมียอดขายที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือ ผู้บริโภคชาวจีนถูกดึงดูดไปยังแบรนด์ท้องถิ่นที่นำเสนอรูปแบบที่แปลกใหม่และฟีเจอร์ล้ำสมัย การนำ Apple Intelligence มาใช้อาจช่วยลดช่องว่างด้านนวัตกรรมนี้โดยการมอบความสามารถด้าน AI ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอาจทำให้ iPhone น่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับผู้บริโภคชาวจีน แม้จะขาดการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบหรือตัวเลือกแบบพับได้ก็ตาม
วิธีการเข้าถึง Visual Intelligence:
- ปุ่มควบคุมกล้อง (ซีรีส์ iPhone 16)
- ปุ่ม Action ที่ปรับแต่งได้ (iPhone 16E, รุ่น 15 Pro)
- ทางลัดหน้าจอล็อค (ปรับแต่งได้)
- ทางลัดศูนย์ควบคุม
การอัปเดตเพิ่มเติมใน iOS 18.5
นอกเหนือจาก Apple Intelligence แล้ว iOS 18.5 จะนำเสนอฟีเจอร์อื่นๆ เช่น วอลเปเปอร์ Pride ใหม่ แม้ว่าการเพิ่มเติมด้านความสวยงามเหล่านี้อาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขาย แต่พวกมันแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Apple ในการอัปเดตฟีเจอร์เป็นประจำและตัวเลือกการปรับแต่งสำหรับผู้ใช้ การรวมกันของการอัปเดตเล็กๆ เหล่านี้กับการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานหลักของ Apple Intelligence อาจทำให้ iOS 18.5 เป็นการเปิดตัวที่สำคัญสำหรับตลาดจีน