Infinix ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ Zero 40 อย่างเป็นทางการ โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดระดับกลางด้วยคุณสมบัติระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ไลน์อัพนี้รวมถึงรุ่น 4G และ 5G โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมกับสเปคที่น่าประทับใจ

แนะนำ Infinix Zero 40 series ออกแบบมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางด้วยคุณสมบัติระดับเรือธง

จอแสดงผลล้ำสมัย

ทั้งรุ่น Zero 40 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED แบบโค้งขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ที่ความละเอียด FHD+ หน้าจอมีความสว่างสูงสุดที่ 1,300 นิต และได้รับการปกป้องด้วย Corning Gorilla Glass 5 ในขณะที่รุ่น 4G มีอัตรารีเฟรช 120Hz รุ่น 5G ยกระดับไปอีกขั้นด้วยอัตรารีเฟรชที่ราบรื่นถึง 144Hz

กล้องทรงพลัง

นักถ่ายภาพจะชื่นชอบกล้องหลัก 108MP พร้อมระบบกันสั่นแบบออปติคอล (OIS) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 จับคู่กับเลนส์มุมกว้าง 50MP และเซ็นเซอร์วัดความลึก 2MP สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูง 50MP พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติ

ตัวเลือกด้านประสิทธิภาพ

Zero 40 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 Ultimate พร้อม RAM 12GB และความจุสูงสุด 512GB สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการการเชื่อมต่อ 5G รุ่น 4G ใช้โปรเซสเซอร์ MediaTek Helio G100 จับคู่กับ RAM 8GB

แบตเตอรี่ทนทาน

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W รุ่น 5G ยังมีฟีเจอร์เพิ่มเติมคือการชาร์จไร้สาย 20W และการชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 10W

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ AI

ซีรีส์ Zero 40 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ XOS 14.5 บนพื้นฐานของ Android 14 Infinix เน้นย้ำถึงความสามารถด้าน AI รวมถึงผู้ช่วย AI ที่เรียกว่า Folax (ขับเคลื่อนโดย Google Gemini) เครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI และโปรแกรมแปลภาษาในตัว

ราคาและการวางจำหน่าย

ในมาเลเซีย Infinix Zero 40 4G มีราคาเริ่มต้นที่ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,800 บาท) สำหรับรุ่น 8GB/256GB ส่วนรุ่น 5G มีราคา 1,699 ริงกิต (ประมาณ 13,900 บาท) ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตและร้านค้า TikTok Shop ของ Infinix

บทสรุป

ด้วยการผสมผสานระหว่างจอแสดงผลอัตรารีเฟรชสูง ระบบกล้องที่หลากหลาย และราคาที่แข่งขันได้ ซีรีส์ Infinix Zero 40 ดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง การรวมการชาร์จไร้สายในรุ่น 5G นั้นถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจในระดับราคานี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อที่สนใจจะต้องพิจารณาถึงประโยชน์ของการเชื่อมต่อ 5G เทียบกับความแตกต่างด้านราคาระหว่างสองรุ่น