Infinix ได้ขยายไลน์อัพสมาร์ทโฟนของตนด้วยการเปิดตัวซีรีส์ Note 50 ในประเทศอินโดนีเซีย นำเสนอการปรับปรุงที่โดดเด่นในด้านเทคโนโลยีหน้าจอและความจุแบตเตอรี่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซีรีส์ใหม่นี้เปิดตัวด้วยสองรุ่นที่มุ่งเป้าไปที่ตลาดระดับกลางด้วยราคาที่แข่งขันได้และคุณสมบัติที่ครบครัน
![]() |
---|
สมาร์ทโฟน Infinix Note 50 ถูกนำเสนอบนพื้นหลังสีม่วงสดใส เน้นการออกแบบและคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรม |
การปรับปรุงด้านการออกแบบและหน้าจอ
ทั้ง Infinix Note 50 และ Note 50 Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full HD+ คงขนาดเดิมเหมือนรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม Infinix ได้อัปเกรดอัตรารีเฟรชเป็น 144Hz อย่างมีนัยสำคัญ มอบประสบการณ์การมองเห็นที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นมีโครงสร้างตัวเครื่องเป็นโลหะและนำเสนอโมดูลกล้องด้านหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ ทั้งสองรุ่นได้รับการรับรอง IP64 ซึ่งให้การป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น
![]() |
---|
ภาพระยะใกล้ของการออกแบบที่เรียบหรูของ Infinix Note 50 และชุดกล้อง แสดงให้เห็นถึงความสวยงามสมัยใหม่และงานฝีมือ |
ข้อมูลจำเพาะด้านประสิทธิภาพ
อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นในซีรีส์ Note 50 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G100 แม้ว่าโปรเซสเซอร์นี้จะจำกัดโทรศัพท์ให้รองรับเพียงการเชื่อมต่อ LTE โดยไม่มีการสนับสนุน 5G แต่สิ่งนี้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของอินโดนีเซียในปัจจุบัน ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งาน 5G อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นทำงานบน XOS 15 ซึ่งเป็นอินเตอร์เฟซแบบกำหนดเองของ Infinix ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Android 15 มอบประสบการณ์ซอฟต์แวร์ล่าสุดให้กับผู้ใช้
ความสามารถของกล้อง
ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจะชื่นชมกล้องหลัก 50MP พร้อมระบบกันสั่นแบบออปติคัล (OIS) ที่มีในทั้งสองรุ่น Note 50 รุ่นมาตรฐานมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดความลึก 2MP และเซ็นเซอร์ความไวแสง ในขณะที่ Note 50 Pro มีการตั้งค่าที่หลากหลายกว่าด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงกระพริบ สำหรับการถ่ายเซลฟี่ Note 50 มาพร้อมกล้องหน้า 13MP ในขณะที่รุ่น Pro อัปเกรดเป็นกล้องหน้า 32MP สำหรับภาพถ่ายตัวเองที่มีคุณภาพสูงขึ้น
นวัตกรรมแบตเตอรี่และการชาร์จ
การปรับปรุงที่สำคัญในซีรีส์ Note 50 คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5,200 mAh ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นระหว่างการชาร์จ ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จแบบแม่เหล็กคล้ายกับเทคโนโลยี MagSafe ของ Apple โดยให้การชาร์จไร้สายสูงสุด 10W ความสามารถในการชาร์จแตกต่างกันระหว่างสองรุ่น โดย Note 50 รุ่นมาตรฐานรองรับการชาร์จแบบมีสาย 45W ในขณะที่รุ่น Pro มีการชาร์จเร็วที่น่าประทับใจถึง 90W
คุณสมบัติเพิ่มเติม
ซีรีส์ Note 50 มีความสะดวกสบายทันสมัยหลายอย่าง เช่น สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอสำหรับการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย ฟังก์ชันวิทยุ FM และความสามารถ NFC สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและการจับคู่อุปกรณ์อย่างรวดเร็ว คุณสมบัติเหล่านี้ ร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android ล่าสุด มอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ครบถ้วนสมบูรณ์
ข้อมูลจำเพาะของ Infinix Note 50 Series
คุณสมบัติ | Note 50 | Note 50 Pro |
---|---|---|
จอแสดงผล | 6.78" AMOLED, FHD+, 144Hz | 6.78" AMOLED, FHD+, 144Hz |
โปรเซสเซอร์ | MediaTek Helio G100 | MediaTek Helio G100 |
กล้องหลัก | 50MP พร้อม OIS + เซ็นเซอร์ความลึก 2MP | 50MP พร้อม OIS + อัลตร้าไวด์ 8MP |
กล้องหน้า | 13MP | 32MP |
แบตเตอรี่ | 5,200 mAh | 5,200 mAh |
การชาร์จ | ชาร์จสาย 45W, แม่เหล็ก 10W | ชาร์จสาย 90W, แม่เหล็ก 10W |
ระบบปฏิบัติการ | XOS 15 (Android 15) | XOS 15 (Android 15) |
การป้องกัน | กันฝุ่นและน้ำ IP64 | กันฝุ่นและน้ำ IP64 |
ราคา | 2,699,000 รูเปียห์ (ประมาณ 165 ดอลลาร์สหรัฐ) | 2,999,000 รูเปียห์ (ประมาณ 182 ดอลลาร์สหรัฐ) |
ราคาและความพร้อมใช้งาน
Infinix Note 50 มีให้เลือกในสีเขียว, แดง, เทา และทอง โดยราคาในอินโดนีเซียเริ่มต้นที่ 2,699,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (ประมาณ 165 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับรุ่น RAM 8GB และความจุ 256GB ส่วน Note 50 Pro มีสีม่วง, ทอง, เทา และเงิน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2,999,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (ประมาณ 182 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการกำหนดค่าหน่วยความจำเดียวกัน การกำหนดราคาที่แข่งขันได้ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง