Bang & Olufsen ได้ผลักดันขอบเขตของเครื่องเสียงหรูหราอีกครั้งด้วยหูฟังรุ่นเรือธงล่าสุด Beoplay H100 ด้วยราคาพรีเมียม $1,549 หูฟังเหล่านี้มุ่งมั่นที่จะคุ้มค่ากับราคาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย วัสดุคุณภาพสูง และการมุ่งเน้นด้านความยั่งยืน
คุณสมบัติขั้นสูงและการออกแบบระดับพรีเมียม
Beoplay H100 มาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าประทับใจหลายประการ:
- ไดรเวอร์ไทเทเนียมขนาด 40 มม. ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อคุณภาพเสียงที่เหนือกว่า
- รองรับเสียงความละเอียดสูง 96kHz/24-bit
- เสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos พร้อมการติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ
- ระบบตัดเสียงรบกวนขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วยไมโครโฟน 10 ตัว
- ปุ่มหมุนแบบสัมผัสสำหรับปรับโหมดความโปร่งใส
- อินเตอร์เฟซแบบสัมผัสที่ทำจากกระจกแข็งกันรอยขีดข่วน
- วัสดุคุณภาพสูงรวมถึงเบาะหูฟังที่ทำจากหนังแกะ
ความยั่งยืนและความสามารถในการซ่อมแซม
ในการก้าวไปสู่ความยั่งยืน Bang & Olufsen ได้ออกแบบ H100 ด้วยชิ้นส่วนที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนได้:
- เบาะหูฟังและเบาะคาดศีรษะที่สามารถถอดและเปลี่ยนได้ง่าย
- ส่วนประกอบหลักที่ออกแบบมาเพื่อการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทดแทนได้ง่าย
- แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่สามารถอัพเกรดได้สำหรับการเพิ่มคุณสมบัติในอนาคต
การมุ่งเน้นด้านความสามารถในการซ่อมแซมนี้อาจช่วยยืดอายุการใช้งานของหูฟังไฮเอนด์เหล่านี้ ซึ่งตอบสนองต่อความกังวลเกี่ยวกับขยะอิเล็กทรอนิกส์
อายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จ
แม้ว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 32 ชั่วโมงของ H100 (เมื่อเปิด ANC) จะน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ก็มีข้อดีดังนี้:
- ชาร์จเร็ว: 5 นาทีสำหรับการเล่น 5 ชั่วโมง
- การจัดการพลังงานอัตโนมัติคล้ายกับ AirPods Max ของ Apple
- เวลาสแตนด์บาย 90 วันในโหมดประหยัดพลังงาน
ราคาและความพร้อมจำหน่าย
Beoplay H100 มีจำหน่ายแล้วในราคา $1,549 / £1,299 (ประมาณ AU$2,500) ในสามตัวเลือกสี: Infinite Black, Hourglass Sand และ Sunset Apricot
บทสรุป
Beoplay H100 ของ Bang & Olufsen เป็นก้าวที่กล้าหาญในการออกแบบหูฟังหรูหรา ผสมผสานเทคโนโลยีเสียงระดับไฮเอนด์เข้ากับการมุ่งเน้นด้านความยั่งยืน แม้ว่าราคาอาจสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก แต่การเน้นย้ำเรื่องความสามารถในการซ่อมแซมและคุณสมบัติระดับพรีเมียมอาจดึงดูดนักฟังเพลงที่มองหาการลงทุนระยะยาวในประสบการณ์การฟังของพวกเขา ในขณะที่เรารอคอยบทวิจารณ์จากการทดลองใช้จริง ยังคงต้องรอดูว่าประสิทธิภาพของ H100 จะคุ้มค่ากับราคาที่สูงในตลาดหูฟังระดับไฮเอนด์ที่มีการแข่งขันสูงหรือไม่