การเข้าซื้อกิจการ Squarespace โดยบริษัท Private Equity อย่าง Permira ด้วยมูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์ ได้จุดประเด็นการถกเถียงอย่างกว้างขวางในวงการเทคโนโลยี โดยผู้ใช้งานแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่คุณภาพบริการจะลดลง และหลายรายกำลังมองหาแพลตฟอร์มทางเลือกสำหรับบริการเว็บโฮสติ้ง
ความกังวลเกี่ยวกับ Private Equity และการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์
การเข้าซื้อกิจการโดย Permira ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้ซื้อ Zendesk (10 พันล้านดอลลาร์) และ McAfee (14 พันล้านดอลลาร์) ได้สร้างสัญญาณเตือนในหมู่ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรม ด้วยสถานะการเงินปัจจุบันของ Squarespace ที่มีกำไรประมาณ 50 ล้านดอลลาร์จากรายได้พันล้านดอลลาร์ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะมีมาตรการลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้คุ้มค่ากับราคาซื้อกิจการที่สูง
การเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น:
- การลดงบประมาณด้านการตลาด โดยเฉพาะการสนับสนุนพอดคาสต์ที่ทำอย่างกว้างขวาง
- การปรับเปลี่ยนคุณภาพการให้บริการที่อาจเกิดขึ้น
- ความเป็นไปได้ในการขึ้นราคา
- การปรับโครงสร้างพนักงาน (คล้ายกับการเลิกจ้างพนักงาน 8% ของ Zendesk หลังการเข้าซื้อกิจการ)
การอพยพของผู้ใช้งาน
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้นำไปสู่การอพยพที่น่าสังเกตของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่ถูกโอนย้ายมายัง Squarespace หลังจาก Google ปิดบริการจดทะเบียนโดเมน ผู้ใช้งานรายงานปัญหาต่างๆ ดังนี้:
- กระบวนการโอนย้ายโดเมนที่ล่าช้า
- ขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน Google Workspace ที่ซับซ้อน
- ปัญหาความต่อเนื่องของบริการระหว่างการโอนย้าย
ผู้ใช้งานจำนวนมากกำลังย้ายไปใช้บริการอื่น โดย Cloudflare กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่รองรับโดเมน punycode
ผลกระทบต่อวงการสร้างคอนเทนต์
การเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับ WordPress ที่ดำเนินอยู่ สิ่งนี้ได้จุดประกายความสนใจในทางเลือกอื่นๆ:
- เฟรมเวิร์กเว็บไซต์แบบ Static
- โซลูชัน Headless CMS
- ทักษะพื้นฐานการพัฒนาเว็บ (คาดว่าใช้เวลาเรียนรู้ 3-6 เดือนสำหรับผู้เริ่มต้น)
- โซลูชันที่ไม่ขึ้นกับแพลตฟอร์มเฉพาะ เช่น Jekyll ที่สามารถใช้งานร่วมกับ GitHub Pages
มุมมองในอนาคต
แม้ว่า Anthony Casalena ซีอีโอของ Squarespace จะยังคงอยู่ในตำแหน่งและรักษาสัดส่วนการถือหุ้นที่สำคัญไว้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอนาคต ประวัติการประเมินมูลค่าของบริษัท - จากจุดสูงสุดที่ 10 พันล้านดอลลาร์ในตลาดเอกชน สู่การผันผวนระหว่าง 2 ถึง 8 พันล้านดอลลาร์ - บ่งชี้ถึงเส้นทางที่ไม่แน่นอนภายใต้การถือครองของ private equity
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในดีลการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของปี 2024 โดยมีผลกระทบที่ขยายวงกว้างไปกว่า Squarespace สู่อุตสาหกรรมการสร้างเว็บไซต์และโฮสติ้งโดยรวม ผู้ใช้งานและผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมยังคงจับตาดูสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงด้านบริการที่คาดการณ์ไว้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชื่อเสียงด้านคุณภาพและนวัตกรรมที่บริษัทสั่งสมมาอย่างยาวนาน