สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของ Apple อาจมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบที่สำคัญสำหรับ Dynamic Island ตามรายงานจากอุตสาหกรรม นวัตกรรมนี้มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี metalens ขั้นสูงที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการมองเห็นองค์ประกอบด้านหน้าของ iPhone ในอนาคต
เทคโนโลยี Metalens ปฏิวัติวงการ
นักวิเคราะห์ Jeff Pu ได้เปิดเผยในบันทึกการลงทุนล่าสุดว่า iPhone 17 Pro Max จะใช้ระบบ 'metalens' สำหรับส่วนประกอบของ Face ID นวัตกรรมทางเทคโนโลยีนี้แตกต่างอย่างมากจากการออกแบบเลนส์แบบโค้งแบบดั้งเดิม:
- เลนส์แบบดั้งเดิม : ใช้กระจกโค้งเพื่อเปลี่ยนทิศทางแสงไปยังเซ็นเซอร์รับภาพ
- Metalens : มีลวดลายขนาดจิ๋วบนพื้นผิวแบนที่บางกว่า เพื่อการโฟกัสแสงที่แม่นยำมากขึ้น
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง : Dynamic Island ที่แคบลงอย่างเห็นได้ชัด
พิเศษเฉพาะรุ่น Pro Max
ที่น่าสนใจคือ การพัฒนานี้จะมีเฉพาะในรุ่น iPhone 17 Pro Max เท่านั้น สะท้อนให้เห็นกลยุทธ์ของ Apple ที่สงวนฟีเจอร์ล้ำสมัยไว้สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ความพิเศษนี้อาจเป็นจุดขายสำคัญในไลน์อัพ iPhone ปี 2024
การพัฒนาจอแสดงผล
อุปกรณ์นี้มีข่าวลือว่าจะใช้เทคโนโลยีจอแสดงผล LTPO3 ที่เคยใช้ใน Watch Series 10 โดยมีคุณสมบัติ:
- ความสว่างเมื่อมองจากมุมเอียงดีขึ้น 40%
- ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น
- ความสามารถในการปรับอัตรารีเฟรชแบบไดนามิก
- มุมมองภาพที่ดีขึ้น
ความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ
iPhone 17 Pro Max จะมาพร้อมชิป A19 Pro ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3nm ของ TSMC ซึ่งให้:
- ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น
- ความเร็วในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น
- ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีขึ้น
มุมมองในอนาคต
แม้ว่าการใช้ metalens จะเป็นก้าวสำคัญ แต่เทคโนโลยี Face ID แบบซ่อนใต้จอแบบสมบูรณ์ยังคงอยู่ในอนาคต โดยมีรายงานว่าจะเปิดตัวไม่เร็วกว่าปี 2026 การใช้เทคโนโลยี metalens นี้อาจเป็นวิธีที่ Apple ค่อยๆ พัฒนาการออกแบบด้านหน้าของ iPhone ในขณะที่กำลังพัฒนานวัตกรรมที่ท้าทายมากขึ้นในอนาคต
หมายเหตุ: คุณสมบัติเหล่านี้อ้างอิงจากรายงานเบื้องต้นและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ข้อมูลจำเพาะสุดท้ายอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวอุปกรณ์ในช่วงปลายปี 2024