Apple เปิดตัว M4 Max: ประสิทธิภาพ AI เร็วขึ้นถึง 400% พร้อมการออกแบบ CPU 12 คอร์แบบปฏิวัติวงการ

BigGo Editorial Team
Apple เปิดตัว M4 Max: ประสิทธิภาพ AI เร็วขึ้นถึง 400% พร้อมการออกแบบ CPU 12 คอร์แบบปฏิวัติวงการ

Apple ได้ขยายไลน์อัพชิปประมวลผลด้วยการเปิดตัว M4 Max ชิปที่สร้างการก้าวกระโดดครั้งสำคัญด้านประสิทธิภาพการประมวลผลและความสามารถด้าน AI ชิปประมวลผลรุ่นเรือธงนี้ผลิตด้วยกระบวนการ 3nm รุ่นที่สองของ TSMC พร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับการประมวลผลระดับมืออาชีพด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนและความสามารถด้าน AI ที่เหนือชั้น

สถาปัตยกรรมและประสิทธิภาพ

M4 Max แสดงถึงการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในการออกแบบชิปของ Apple โดยมาพร้อมคอร์ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 12 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานอีก 4 คอร์ รวมเป็น 16 คอร์ในรุ่นสูงสุด ความสามารถด้าน GPU ได้รับการปรับปรุงอย่างมากด้วยจำนวนคอร์สูงสุด 40 คอร์ ให้ประสิทธิภาพที่ Apple อ้างว่าเร็วกว่า M1 Max ถึง 220% ในการประมวลผล CPU และเร็วกว่า 190% ในการประมวลผลกราฟิก ที่โดดเด่นที่สุดคือ Apple อวดว่า M4 Max มีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิป AI PC รุ่นล่าสุดถึง 400% ในบางงาน

นวัตกรรมด้านหน่วยความจำและแบนด์วิดธ์

การพัฒนาที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือความสามารถด้านหน่วยความจำ ที่รองรับ RAM แบบรวมสูงถึง 128GB และมีแบนด์วิดธ์หน่วยความจำที่น่าประทับใจที่ 546GB/s การเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำงานกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่มีพารามิเตอร์สูงถึง 200 พันล้านตัว เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับแอปพลิเคชัน AI และ machine learning นอกจากนี้ยังมีการรองรับ Thunderbolt 5 ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 120Gb/s ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อ

การพัฒนาด้าน AI และ Neural Engine

Neural Engine ของ M4 Max ได้รับการอัพเกรดอย่างมาก โดยสามารถประมวลผลได้สูงถึง 38 TOPS (ล้านล้านการคำนวณต่อวินาที) มากกว่าสองเท่าของรุ่นก่อน M3 Max ที่ทำได้ 18 TOPS การเพิ่มขึ้นของความสามารถในการประมวลผล AI นี้ทำให้ M4 Max เป็นเครื่องจักรสำคัญสำหรับเครื่องมือ AI ที่กำลังจะมาและเวิร์กโฟลว์ระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใหม่ๆ เริ่มปรากฏขึ้น

การวางจำหน่ายและการนำไปใช้งาน

ชิป M4 Max รุ่นใหม่จะมีให้บริการใน MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วและ 16 นิ้วที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 8 พฤศจิกายน แม้ว่าราคาจะแตกต่างกันไปตามการกำหนดค่าเฉพาะ แต่ชิประดับพรีเมียมนี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็นตัวเลือกสูงสุดสำหรับผู้ใช้มืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีที่ต้องการพลังการประมวลผลสูงสุดสำหรับงานสร้างสรรค์ของพวกเขา