ในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โครงการ AI ที่ได้รับการจับตามองของ Google รหัส Jarvis ได้ถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจผ่านการเผยแพร่บนร้านส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ Chrome การรั่วไหลครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นแผนการอันทะเยอทะยานของ Google ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราโต้ตอบกับอินเทอร์เน็ตผ่านระบบผู้ช่วย AI
การเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ
ตัวอย่างภายในของ Jarvis ปรากฏขึ้นชั่วครู่บนร้านส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดต้นแบบได้ก่อนที่จะถูกลบออกอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเวอร์ชันที่ดาวน์โหลดจะไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากต้องการสิทธิ์การเข้าถึง แต่การรั่วไหลนี้ได้ยืนยันการมีอยู่ของผู้ช่วย AI ขั้นสูงที่ Google มีแผนจะประกาศในเดือนหน้าพร้อมกับการอัปเดตโมเดลภาษาขนาดใหญ่
ความสามารถปฏิวัติวงการของ Jarvis
ผู้ช่วย AI นี้ถูกออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคู่ใจในการท่องเว็บที่สามารถนำทางเว็บไซต์และทำงานที่ซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้วิธีการจับภาพหน้าจอที่เป็นนวัตกรรมใหม่ Jarvis สามารถจับและแปลความหมายสิ่งที่อยู่บนหน้าจอของผู้ใช้ ทำให้สามารถโต้ตอบกับองค์ประกอบของเว็บโดยการคลิกปุ่มและกรอกข้อความในช่องต่างๆ นี่ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญเมื่อเทียบกับแชทบอทแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์แทนที่จะพึ่งพาเฉพาะข้อมูลที่ถูกฝึกไว้ล่วงหน้า
สภาพการแข่งขันและผลกระทบต่อตลาด
การพัฒนานี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญของวงการผู้ช่วย AI โดย OpenAI เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ค้นหาของ ChatGPT และ Anthropic กำลังพัฒนาความสามารถในการควบคุมคอมพิวเตอร์ที่คล้ายกันสำหรับ Claude AI ของตน Jarvis ดูเหมือนจะเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ Google ต่อความก้าวหน้าเหล่านี้ โดยอาจมีความสามารถในการโต้ตอบกับเว็บที่ครอบคลุมมากกว่าคู่แข่ง
ข้อพิจารณาด้านความเป็นส่วนตัวและจริยธรรม
เมื่อการท่องเว็บด้วย AI มีความซับซ้อนมากขึ้น คำถามสำคัญเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและข้อพิจารณาด้านจริยธรรมก็เกิดขึ้นตามมา ความสามารถของผู้ช่วย AI ในการนำทางเว็บโดยอัตโนมัติและเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสของข้อมูลและการปกป้องเนื้อหาส่วนตัว ซึ่งเป็นประเด็นที่ Google จะต้องจัดการก่อนการเปิดตัว Jarvis อย่างเป็นทางการ
ผลกระทบในอนาคต
การรั่วไหลของ Jarvis โดยไม่ตั้งใจบ่งชี้ว่า Google กำลังเตรียมการอัปเกรดเบราว์เซอร์ Chrome ครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2008 การพัฒนานี้อาจเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับอินเทอร์เน็ตอย่างถึงรากถึงโคน โดยเปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมไปสู่ระบบนำทางเว็บและการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ซับซ้อนมากขึ้น