การพัฒนาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้ผลิตพยายามต่อสู้กับการโจรกรรมและการสูญหายของอุปกรณ์ การพัฒนาล่าสุดบ่งชี้ว่า OnePlus อาจกำลังเตรียมนำระบบรักษาความปลอดภัยที่สำคัญมาใช้ในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นถัดไป
ความสามารถในการติดตามแบบออฟไลน์ขั้นสูง
OnePlus 13 อาจเข้าร่วมกลุ่มสมาร์ทโฟนอย่าง Google Pixel และ iPhone ในไม่ช้า ด้วยการรวมฟังก์ชันการติดตามแม้ในขณะที่เครื่องปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุตำแหน่งอุปกรณ์ได้แม้ในยามที่ปิดเครื่อง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหากลยุทธ์ทั่วไปที่ขโมยมักจะปิดเครื่องทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับ
พื้นฐานทางเทคนิค
ความเป็นไปได้ของฟีเจอร์นี้มาจากการที่ OnePlus 13 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ซึ่งมาพร้อมแพลตฟอร์ม FastConnect 7900 ต่างจากรุ่นก่อนใน OnePlus 12 ฮาร์ดแวร์ใหม่นี้รองรับความสามารถในการติดตามขณะปิดเครื่องโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม Qualcomm ระบุว่าแม้จะมีการรองรับด้านฮาร์ดแวร์ การนำไปใช้งานจริงยังขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ผลิตอุปกรณ์
วิธีการทำงานของเทคโนโลยี
ระบบติดตามแบบออฟไลน์ทำงานผ่านตัวควบคุม Bluetooth ของโทรศัพท์ ซึ่งยังคงส่งสัญญาณบอกตำแหน่งแม้ในขณะที่อุปกรณ์ถูกปิด สัญญาณเหล่านี้สามารถถูกตรวจจับโดยอุปกรณ์ใกล้เคียง ซึ่งจะส่งต่อข้อมูลตำแหน่งไปยังเครือข่าย Find My Device ของ Google ฟังก์ชันนี้สามารถทำงานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงหลังจากปิดเครื่อง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการกู้คืนโทรศัพท์ที่สูญหายหรือถูกขโมยอย่างมาก
บริบทตลาดปัจจุบัน
ในขณะที่ฟีเจอร์นี้เคยเป็นของซีรีส์ Google Pixel 8 และ Pixel 9 รวมถึง iPhone เท่านั้น การเพิ่มเข้ามาใน OnePlus 13 แสดงให้เห็นถึงการนำฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงมาใช้อย่างกว้างขวางในอุปกรณ์ Android โดย OnePlus 13 ที่เปิดตัวในจีนแล้วนั้น อาจได้รับฟีเจอร์นี้ผ่านการอัปเดต OxygenOS 15 ในอนาคต แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม
นัยสำคัญในอนาคต
การขยายฟีเจอร์การติดตามขณะปิดเครื่องไปยังอุปกรณ์ Android มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในด้านความปลอดภัยของสมาร์ทโฟน เมื่อผู้ผลิตหลายรายนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ มันอาจกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐาน ซึ่งอาจช่วยป้องปรามการโจรกรรมและมอบความอุ่นใจให้กับผู้ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์ของพวกเขา