NSO Group ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการโจมตีผู้ใช้ WhatsApp ด้วยสปายแวร์ Pegasus

BigGo Editorial Team
NSO Group ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการโจมตีผู้ใช้ WhatsApp ด้วยสปายแวร์ Pegasus

การต่อสู้กับซอฟต์แวร์การสอดแนมที่ผิดกฎหมายได้บรรลุจุดสำคัญ เมื่อศาลสหรัฐฯ มีคำตัดสินที่เป็นบรรทัดฐานต่อบริษัทผู้ผลิตสปายแวร์ที่มีข้อถกเถียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คำตัดสินนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้ระหว่างนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัวและบริษัทเทคโนโลยีการสอดแนม

ศาลตัดสินต่อต้าน NSO Group

ศาลสหรัฐฯ ได้ตัดสินว่า NSO Group บริษัทจากอิสราเอลผู้อยู่เบื้องหลังสปายแวร์ Pegasus อันลือชื่อ มีความรับผิดทางกฎหมายต่อการโจมตีอุปกรณ์ของผู้ใช้ WhatsApp ประมาณ 1,400 ราย คำตัดสินระบุว่า NSO Group ละเมิดกฎหมายหลายฉบับ รวมถึง Computer Fraud and Abuse Act ของรัฐบาลกลาง และ Comprehensive Computer Data Access and Fraud Act ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตลอดจนละเมิดข้อตกลงการใช้งานของ WhatsApp

การละเมิดกฎหมายที่สำคัญโดย NSO Group:

  • การละเมิดพระราชบัญญัติการฉ้อโกงและการใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่ผิด ( Computer Fraud and Abuse Act - CFAA )
  • การละเมิดพระราชบัญญัติการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์และการฉ้อโกงแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ( California Comprehensive Computer Data Access and Fraud Act - CDAFA )
  • การละเมิดข้อตกลงการใช้งานของ WhatsApp

ความเป็นมาของการต่อสู้ทางกฎหมาย

คดีนี้เริ่มต้นในปี 2019 เมื่อ WhatsApp ยื่นฟ้อง และใช้เวลาผ่านกระบวนการทางกฎหมายมาห้าปี ผู้พิพากษา Phyllis Hamilton ปฏิเสธข้อต่อสู้ของ NSO Group ที่อ้างว่าไม่ควรถูกตัดสินว่ามีความผิด เนื่องจาก Pegasus ถูกใช้งานโดยลูกค้าที่สืบสวนคดีอาชญากรรมและกรณีความมั่นคงของชาติ คำตัดสินนี้อาจสร้างบรรทัดฐานสำคัญสำหรับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการสอดแนม

เส้นเวลา:

  • 2011: การพัฒนาสปายแวร์ Pegasus
  • 2019: WhatsApp ยื่นฟ้องคดี
  • 2024: คำตัดสินของศาลต่อ NSO Group

การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางเทคนิค

ประเด็นที่น่าตำหนิอย่างยิ่งในคดีนี้เกี่ยวข้องกับการที่ NSO Group ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในเรื่องการเข้าถึงซอร์สโค้ด บริษัทเสนอเพียงให้ตรวจสอบซอร์สโค้ดในอิสราเอลโดยพลเมืองอิสราเอลเท่านั้น ซึ่งผู้พิพากษาเห็นว่าเป็นเงื่อนไขที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง การไม่ปฏิบัติตามนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ศาลตัดสินให้ลงโทษ NSO Group ตามที่ WhatsApp ร้องขอ

ผลกระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว

Will Cathcart หัวหน้า WhatsApp ได้กล่าวยกย่องคำตัดสินนี้ว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับสิทธิความเป็นส่วนตัว คำตัดสินนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทสปายแวร์ไม่สามารถอ้างความคุ้มกันหรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อกิจกรรมการสอดแนมที่ผิดกฎหมายได้ คดีนี้จะดำเนินการต่อไปเพื่อกำหนดจำนวนค่าเสียหายที่ NSO Group ต้องชำระ

นัยสำคัญของคำพิพากษาของศาลสะท้อนให้เห็นจุดยืนที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับสิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล โดยมีโทรศัพท์เป็นสัญลักษณ์ที่อยู่ศูนย์กลางของประเด็นการเฝ้าระวัง
นัยสำคัญของคำพิพากษาของศาลสะท้อนให้เห็นจุดยืนที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับสิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล โดยมีโทรศัพท์เป็นสัญลักษณ์ที่อยู่ศูนย์กลางของประเด็นการเฝ้าระวัง

วิวัฒนาการของสปายแวร์ Pegasus

Pegasus ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี 2011 เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยรัฐบาลในการต่อสู้กับอาชญากรรมและการก่อการร้าย แต่ได้พัฒนาเป็นระบบสอดแนมที่ซับซ้อน แม้ว่าการใช้งานในช่วงแรกจะอาศัยลิงก์ที่เป็นอันตราย แต่ปัจจุบันได้พัฒนาไปถึงขั้นใช้ประโยชน์จากช่องโหว่แบบ zero-day ในโทรศัพท์ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือละเมิดความเป็นส่วนตัวที่ทรงพลังที่สุด การใช้สปายแวร์นี้กับนักข่าว นักเคลื่อนไหว และเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่มีการบันทึกไว้ ได้สร้างความกังวลทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสอดแนมและความเป็นไปได้ในการใช้ในทางที่ผิด