Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 อัปเดตเร็วขึ้น 45% พร้อมระบบควบคุมแบนด์วิดท์ใหม่

BigGo Editorial Team
Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 อัปเดตเร็วขึ้น 45% พร้อมระบบควบคุมแบนด์วิดท์ใหม่

Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ล่าสุดจาก Microsoft ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาประสิทธิภาพการอัปเดตระบบ พร้อมทั้งแนะนำฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการการใช้แบนด์วิดท์ในการอัปเดตได้ดียิ่งขึ้น

การพัฒนาประสิทธิภาพที่โดดเด่น

การทดสอบภายในของ Microsoft แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่น่าประทับใจในกระบวนการอัปเดต:

  • ติดตั้งเร็วขึ้น 45%
  • เวลาในการรีสตาร์ทลดลง 40%
  • การใช้งาน CPU ระหว่างอัปเดตลดลง 25%
  • ขนาดไฟล์ดาวน์โหลดลดลง 200MB สำหรับผู้ใช้บางราย
การปรับปรุงประสิทธิภาพใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2: การติดตั้งเร็วขึ้น 436% และใช้งาน CPU น้อยลง 25% ในระหว่างการอัปเดต
การปรับปรุงประสิทธิภาพใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2: การติดตั้งเร็วขึ้น 436% และใช้งาน CPU น้อยลง 25% ในระหว่างการอัปเดต

การปรับปรุงด้านเทคนิค

ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลายส่วน:

  • การใช้การประมวลผลแบบขนานสำหรับงานอัปเดตพร้อมกัน
  • การจัดการ RAM อัจฉริยะที่ปรับตัวตามทรัพยากรระบบ
  • กลไกการแคชที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับส่วนประกอบที่สำคัญ
  • ระบบการให้บริการที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเวอร์ชัน 22H2 และ 23H2

ฟีเจอร์การจัดการแบนด์วิดท์ใหม่

ผู้ใช้สามารถควบคุมแบนด์วิดท์การอัปเดตได้มากขึ้น:

  • ตั้งค่าการจำกัดการดาวน์โหลดพื้นหลังเป็น Mbps หรือเปอร์เซ็นต์
  • ควบคุมการดาวน์โหลดขณะใช้งานสำหรับเซสชันอัปเดต
  • จำกัดแบนด์วิดท์อัปโหลดสำหรับการแชร์อัปเดตกับอุปกรณ์อื่น
  • กำหนดขีดจำกัดการอัปโหลดรายเดือนเพื่อจัดการการใช้ข้อมูล

ฟีเจอร์เพิ่มเติมใน 24H2

การอัปเดตยังมาพร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพการใช้งานหลายอย่าง:

  • การปรับปรุง Copilot+ รวมถึง Click to Do และ Live Captions
  • อัปเดต File Explorer พร้อมรองรับไฟล์บีบอัดเพิ่มเติม
  • ปรับปรุง Taskbar พร้อม Quick Settings แบบเลื่อนได้
  • โหมดประหยัดพลังงานใหม่เพื่อการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น

สำหรับผู้ใช้ที่กังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตระหว่างการอัปเดต ฟีเจอร์ควบคุมแบนด์วิดท์ใหม่นี้ช่วยให้สามารถควบคุมการใช้งานการเชื่อมต่อของ Windows Update ได้อย่างละเอียด โดยสามารถเข้าถึงการตั้งค่าเหล่านี้ได้ง่ายๆ ผ่านแอป Windows Settings ในส่วน Delivery Optimization

การอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Microsoft ในการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้พบเจอมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับกระบวนการอัปเดต พร้อมทั้งเพิ่มการปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานที่มีความหมายในระบบปฏิบัติการ