อุตสาหกรรมเกมกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ แม้จะมีการเปิดตัวเกมใหม่เป็นจำนวนมากในปี 2024 แต่ผู้เล่นจำนวนมากกลับหันไปเล่นเกมเก่ามากขึ้น แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ลึกซึ้งในระบบนิเวศของวงการเกมและรูปแบบพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ตัวเลขไม่โกหก
จากข้อมูลล่าสุด ในปี 2024 มีการเปิดตัวเกมแล้ว 13,065 เกม ซึ่งน้อยกว่าปี 2023 เพียง 870 เกม ทั้งที่ยังเหลืออีก 3 เดือน คาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้จะมีเกมเปิดตัวประมาณ 17,965 เกม เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 28.92% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทำไมผู้เล่นจึงเลือกเกมเก่า
มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ทำให้ผู้เล่นชอบเกมเก่ามากกว่า:
1. เรื่องเวลาและความคุ้มค่า
- ผู้เล่นมีเวลาเล่นเกมน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น
- การลงทุน 60 ดอลลาร์กับเกมใหม่ที่ยังไม่ได้ทดลองเล่นถือเป็นความเสี่ยง
- ช่วงเวลาคืนเงิน 2 ชั่วโมงของ Steam กลายเป็นช่วงทดสอบที่สำคัญสำหรับการซื้อเกมใหม่
2. คุณภาพและความน่าเชื่อถือ
- เกมที่มีชื่อเสียงมีประวัติความสำเร็จที่พิสูจน์แล้ว
- เกมเก่ามักได้รับการแก้ไขบั๊กและมีข้อเสนอแนะจากผู้เล่นอย่างครอบคลุม
- เกมคลาสสิกหลายเกมยังคงได้รับอัปเดตและ DLC อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังคงน่าสนใจ
3. ความยาวและความผูกพันกับเกม
- เกมสมัยใหม่มักต้องใช้เวลาเล่นมากกว่า 20 ชั่วโมงเพื่อจบเกม เทียบกับเกมเก่าที่ใช้เวลาเฉลี่ย 10 ชั่วโมง
- ผู้เล่นรู้สึกว่ามีเนื้อหาในเกมใหม่มากเกินไปจนรู้สึกท่วมท้น
- ภารกิจเสริมและเนื้อหาเพิ่มเติมทำให้รู้สึกเหมือนต้องทำงานเต็มเวลา
วิกฤตความคิดสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมเกมดูเหมือนจะอยู่ในช่วงซบเซา 5 ปี สังเกตได้จาก:
- เกมที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาต่อยอดจากสูตรเดิม (เช่น Elden Ring, Baldur's Gate 3)
- สตูดิโอใหญ่อย่าง Ubisoft และ EA กล้าเสี่ยงน้อยลงกับ IP ใหม่
- ความไม่มั่นคงในอุตสาหกรรมหลังจากการเผชิญปัญหาวัฒนธรรมในที่ทำงาน
- ต้นทุนการพัฒนาที่สูงขึ้นแม้จะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ดีขึ้น
จุดสว่าง
แม้จะมีความท้าทาย แต่ก็มีพัฒนาการในแง่บวก:
- DLC และอัปเดตคุณภาพดีสำหรับเกมเก่า (Factorio Space Age, Age of Empires II)
- เกมอินดี้ประสบความสำเร็จในการหาตลาดเฉพาะกลุ่ม
- เกมใหม่บางเกมอย่าง Dredge (2023) พิสูจน์ว่าประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพยังสามารถประสบความสำเร็จได้
มองไปข้างหน้า
อุตสาหกรรมเกมกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้จำนวนเกมใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่การมีเกมมากเกินไป แต่อยู่ที่การตอบสนองความคาดหวังของผู้เล่นในด้านคุณภาพ คุณค่า และการมีส่วนร่วมในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่มีอยู่แล้วนับทศวรรษ
ความสำเร็จของเกมในอนาคตอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จทางเทคนิคเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับการหาจุดสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการเข้าถึงได้ง่าย พร้อมทั้งเคารพเวลาและการลงทุนของผู้เล่น