สองด้านของ Meta: ราคาหุ้นพุ่งทำสถิติแม้ Zuckerberg จะได้รับความนิยมต่ำจากสาธารณชน

BigGo Editorial Team
สองด้านของ Meta: ราคาหุ้นพุ่งทำสถิติแม้ Zuckerberg จะได้รับความนิยมต่ำจากสาธารณชน

Meta Platforms กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อความสำเร็จทางการเงินและภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม ในขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งสูงทำสถิติใหม่ ผู้บริหารกลับต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากสาธารณชนอย่างหนัก

ผลประกอบการในตลาดหุ้นที่ทำลายสถิติ

หุ้นของ Meta แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งในช่วงต้นปี 2025 โดยทำสถิติปรับตัวขึ้น 20 วันติดต่อกัน จนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 736.67 ดอลลาร์ ผลงานนี้ทำให้ Meta กลายเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในกลุ่ม Magnificent Seven ของบริษัทเทคโนโลยีในปีนี้ ด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่า 25% ความแข็งแกร่งในตลาดของบริษัทนำไปสู่การพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการแตกหุ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2013

ตำแหน่งของ Meta: ผู้นำด้านผลประกอบการในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ Magnificent Seven ในปี 2025

ความท้าทายด้านภาพลักษณ์ต่อสาธารณชน

แม้จะประสบความสำเร็จทางการเงิน แต่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta กลับต้องเผชิญกับปัญหาด้านการประชาสัมพันธ์อย่างหนัก ข้อมูลล่าสุดจาก Pew Research Center เผยว่า 67% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ มีมุมมองในแง่ลบต่อ Zuckerberg โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ความรู้สึกนี้ข้ามพรมแดนทางการเมือง แม้ว่าผู้ที่มีแนวคิดฝ่ายซ้ายจะแสดงความไม่เห็นด้วยในระดับ 76% เทียบกับ 60% ในกลุ่มผู้ที่มีแนวคิดฝ่ายขวา

การไม่เห็นด้วยของประชาชนต่อ Zuckerberg: 67% โดยรวม

  • ฝ่ายที่เอนเอียงไปทางซ้าย: 76% ไม่เห็นด้วย
  • ฝ่ายที่เอนเอียงไปทางขวา: 60% ไม่เห็นด้วย

ปรากฏการณ์ซีอีโอคนดัง

ความแตกต่างระหว่างความสำเร็จในตลาดของ Meta และภาพลักษณ์ของซีอีโอสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการบริหารองค์กรสมัยใหม่ สื่อสังคมออนไลน์ได้เปลี่ยนผู้บริหารเทคโนโลยีให้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อ Zuckerberg เป็นพิเศษ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกใช้งานทุกวันโดยผู้ใช้หลายล้านคน ในขณะที่สาธารณชนกลับมองด้วยความสงสัย

ผลกระทบต่อตลาด

การแตกหุ้นที่อาจเกิดขึ้นของ Meta อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการของบริษัท ในฐานะสมาชิกเพียงรายเดียวในกลุ่ม Magnificent Seven ที่ยังไม่เคยแตกหุ้น การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้หุ้นเข้าถึงนักลงทุนรายย่อยได้ง่ายขึ้นและอาจเพิ่มปริมาณการซื้อขาย ข้อมูลในอดีตชี้ให้เห็นว่าบริษัทมักพิจารณาแตกหุ้นเมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึงระดับที่สูงมาก และมักมองว่าเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นในการเติบโตในอนาคต

มองไปข้างหน้า

ความแตกต่างระหว่างผลประกอบการทางการเงินและการรับรู้ของสาธารณชนต่อ Meta นำเสนอทั้งความท้าทายและโอกาส ในขณะที่บริษัทยังคงสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในตลาด การแก้ไขปัญหาความไว้วางใจจากสาธารณชนยังคงเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับความยั่งยืนในระยะยาว สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างความสำเร็จขององค์กรและความรู้สึกของสาธารณชนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียุคปัจจุบัน