หลังจากที่เน้นเฉพาะการต่อสู้แบบผู้เล่นปะทะผู้เล่น (player-versus-player) มาเกือบสองปี เกม extraction RPG อย่าง Dark and Darker จากค่าย Ironmace ได้เปิดรับรูปแบบการเล่นแบบร่วมมือกันในที่สุดด้วยการอัปเดตซีซั่น 6 โหมด PvE ที่รอคอยกันมานานได้มาถึงแล้วในฐานะส่วนหนึ่งของการเปิดตัว early access ซึ่งมอบวิธีใหม่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์การผจญภัยในดันเจี้ยนโดยไม่ต้องกังวลกับภัยคุกคามจากผู้เล่นคนอื่นที่จะมาซุ่มโจมตี
Adventure Mode: วิธีการเล่นแบบใหม่
ฟีเจอร์เด่นของซีซั่น 6 คือการแนะนำ Adventure Mode ซึ่งเป็นประสบการณ์ PvE ล้วนๆ ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถจับทีมกับเพื่อนเพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์และบอสโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่เป็นศัตรู การเพิ่มโหมดนี้ตอบสนองต่อคำขอที่มีมานานจากชุมชนที่ต้องการวิธีการเล่นเกมที่มีการแข่งขันน้อยลงเพื่อสนุกกับกลไกการสำรวจดันเจี้ยนของเกม โหมดนี้นำเสนอวิธีการสำรวจที่ผ่อนคลายมากขึ้นในขณะที่ยังคงรักษาความท้าทายในการต่อสู้กับศัตรู AI
การเพิ่มเติมที่สำคัญในซีซั่น 6:
- โหมด Adventure สำหรับเล่นแบบ PvE เท่านั้น
- มอนสเตอร์ Inferno ใหม่ 4 ตัว: Demon Imp, Ghoul, Demon Fly, Hell Maggot
- บอสรอง Inferno ใหม่ 3 ตัว: Cerberus, Dreadspine, Abomination
- ระบบเรียกบอส High-Roller แบบใหม่
- ไอเทมขว้างใหม่ 2 ชนิด: Poison Vial และ Ghostdust Pouch
- ไอเทมที่สามารถคราฟต์ได้ใหม่ 3 ชนิด: Staff of Gluttony, Crystal Frost Ring, Tome of Sheol
การปรับสมดุลความเสี่ยงและรางวัล
เพื่อรองรับการเน้น PvE แบบใหม่ Ironmace ได้ปรับสมดุลความเสี่ยงและรางวัลในทุกโหมดเกม ความยากของมอนสเตอร์ ไอเทมที่ดรอป และการตั้งค่าอื่นๆ ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อให้มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับโหมดที่คุณเลือก สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าในขณะที่ Adventure Mode กำจัดภัยคุกคามจากการซุ่มโจมตีของผู้เล่น มันยังคงนำเสนอความท้าทายและรางวัลที่เหมาะสมเพื่อรักษาความน่าสนใจของเกมเพลย์
มอนสเตอร์และบอสใหม่
ซีซั่น 6 แนะนำเนื้อหาใหม่ที่สำคัญเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับดันเจี้ยน มีการเพิ่มมอนสเตอร์ Inferno ใหม่สี่ตัว ได้แก่ Demon Imp, Ghoul, Demon Fly และ Hell Maggot นอกจากนี้ยังมีซับบอส Inferno ใหม่สามตัวเข้าร่วมด้วย: Cerberus, Dreadspine และ Abomination การอัปเดตยังรวมถึงรูปแบบใหม่สำหรับสิ่งมีชีวิต Nightmare ที่มีอยู่แล้วเช่น Ice Spider, Harpy และ Wendigo ทำให้มั่นใจได้ว่าแม้แต่ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ก็จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ
ระบบการเรียกบอสสำหรับผู้เล่นระดับสูง
มีการนำกลไกการเรียกบอสใหม่มาใช้สำหรับการเล่นระดับสูง ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างไอเทมพิเศษเพื่อเรียกบอสที่ทรงพลังรวมถึง Lich, Warlord, Ghost King และ Frost Wyvern Ironmace ได้ระบุว่าจะมีการเพิ่มบอสเพิ่มเติมในการอัปเดตในอนาคต ซึ่งจะขยายเนื้อหาเกมเอนด์เกมที่มีให้กับผู้เล่นที่ทุ่มเท
การปิดตลาดและการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ
ในการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเพื่อส่งเสริมการเล่นแบบพึ่งพาตนเอง Ironmace ได้ปิดตลาดการค้า Dark and Darker ชั่วคราวในช่วงสองสัปดาห์แรกของซีซั่น 6 ซึ่งรวมถึงทั้งตลาดและโพสต์การค้า ทำให้ผู้เล่นต้องล่าและปกป้องไอเทมของตัวเองแทนที่จะซื้อการอัปเกรดอย่างง่ายดาย การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งชี้ว่าผู้พัฒนากำลังพยายามเน้นย้ำแง่มุมการดึงไอเทมออกมาจากเกมตามที่พวกเขาอธิบายว่าเป็น extraction RPG
การปรับปรุงคุณภาพชีวิตทั่วทั้งบัญชี
มีการนำการปรับปรุงคุณภาพชีวิตหลายอย่างมาใช้ รวมถึงการเข้าถึงบริการพ่อค้าและตลาดทั่วทั้งบัญชี ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นไม่จำเป็นต้องสลับตัวละครเพื่อเข้าถึงผู้ขายหรือบริการการค้าที่พวกเขาชื่นชอบอีกต่อไป นอกจากนี้ ขีดจำกัดการสร้างไอเทมส่วนใหญ่ได้เพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 3 ต่อช่วงเวลาการสร้าง ให้ผู้เล่นมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการพัฒนาอุปกรณ์
การปรับปรุงคุณภาพชีวิต:
- บริการพ่อค้าแบบใช้ร่วมกันทั้งบัญชี
- การเข้าถึงตลาดแบบใช้ร่วมกันทั้งบัญชี
- เพิ่มขีดจำกัดการสร้างไอเทม (1 → 3 ต่อช่วงเวลา)
- บริการขนส่งด่วนระหว่างชั้นดันเจี้ยน
- ปรับปรุงการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ด้วยระบบ IK ใหม่
- แยกตัวเลือกความสว่างเพื่อการควบคุมที่แม่นยำมากขึ้น
ราคาและความพร้อมใช้งาน
Dark and Darker ซีซั่น 6 เข้าสู่ early access เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2023 เกมพื้นฐานมีให้เล่นฟรี แต่ผู้เล่นสามารถซื้อการอัปเกรด Legendary แบบพรีเมียมในราคาลด 30% ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 21 ดอลลาร์สหรัฐ / 16.27 ปอนด์
การแก้ไขบั๊กจำนวนมาก
การอัปเดตซีซั่น 6 ยังแก้ไขบั๊กและปัญหาทางเทคนิคมากมาย ตั้งแต่ปัญหาการเปิดใช้งานสกิลไปจนถึงข้อผิดพลาดในการชนกันของแผนที่ การแก้ไขเหล่านี้ช่วยปรับปรุงความเสถียรของเกมโดยรวมและแก้ไขช่องโหว่ที่ส่งผลต่อความสมดุลของเกมเพลย์ เช่น Sorcerers ที่ใช้ Electric Dash ข้ามสะพานชักที่ยังไม่เปิดหรือ Druids ที่ใช้ Rat Form เพื่อหลบหนีจากขอบเขตแผนที่ในบางตำแหน่ง
มองไปข้างหน้า
ด้วยการเพิ่มเกมเพลย์แบบ PvE Dark and Darker ได้ขยายความน่าสนใจอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้เล่นที่ชอบประสบการณ์แบบร่วมมือมากกว่าแบบแข่งขัน การอัปเดตครั้งใหญ่นี้แสดงถึงทิศทางใหม่สำหรับเกมที่อาจดึงดูดผู้ชมในวงกว้างมากขึ้นในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์การสำรวจดันเจี้ยนที่ท้าทายซึ่งแฟนหลักชื่นชอบ ในขณะที่ช่วง early access ยังคงดำเนินต่อไป จะน่าสนใจที่จะเห็นว่า Ironmace สร้างความสมดุลระหว่างรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันเหล่านี้และขยายพื้นฐานที่วางไว้โดยซีซั่น 6 อย่างไร