ในการพัฒนาครั้งสำคัญของวงการเกม Sony Interactive Entertainment ได้ตัดสินใจปิดตัว Firewalk Studios อย่างถาวรและยุติการพัฒนาเกมมัลติเพลเยอร์ Concord ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการปิดตัวโครงการเกมที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
การล่มสลายของ Concord
แผนกเกมของ Sony ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงการปิดตัว Firewalk Studios อย่างถาวรและยุติการพัฒนาเกม Concord ซึ่งเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งแบบ PvP ที่มีความทะเยอทะยาน เกมนี้ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 5 ปีและวางจำหน่ายในราคา 40 ดอลลาร์ แต่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในตลาดเกมยิงที่มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดเพียง 660 คนบน Steam ก่อนที่จำนวนจะลดลงอย่างรวดเร็ว
ผลกระทบจากการปิดสตูดิโอ
การปิดตัวครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 210 คนจากทั้ง Firewalk Studios และ Neon Koi ซึ่งเป็นสตูดิโอเกมมือถือของ Sony ที่กำลังถูกปิดตัวเช่นกัน Herman Hulst ซีอีโอของกลุ่มธุรกิจสตูดิโอ PlayStation ระบุว่า Sony จะพยายามจัดสรรพนักงานบางส่วนไปยังเครือข่ายสตูดิโอทั่วโลกของบริษัท แม้ว่าขอบเขตการโยกย้ายภายในยังไม่ชัดเจน
การทดลองสร้างสรรค์ vs ความเป็นจริงทางการตลาด
แถลงการณ์สุดท้ายของ Firewalk Studios ได้ปกป้องแนวทางสร้างสรรค์ของพวกเขา โดยกล่าวถึงความพยายามในการสร้างนวัตกรรมด้วยการผสมผสานองค์ประกอบจากเกมการ์ดและเกมต่อสู้เข้ากับกลไกการยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แม้ว่าจะยอมรับว่าคุณสมบัติการทดลองเหล่านี้ไม่ได้รับการตอบรับจากผู้เล่นอย่างที่คาดหวัง แต่สตูดิโอยังคงยืนยันว่าการกล้าเสี่ยงเช่นนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการเกม สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างการทดลองสร้างสรรค์และความเป็นไปได้ทางการค้าในอุตสาหกรรมเกมสมัยใหม่
การตอบสนองเชิงกลยุทธ์ของ Sony
การตัดสินใจปิด Firewalk Studios เกิดขึ้นหลังจากการประเมินผลหลายเดือนหลังจากการระงับ Concord ในเดือนกันยายน ผู้บริหารของ Sony เน้นย้ำว่าแม้ว่าบางแง่มุมของ Concord จะยอดเยี่ยม แต่การที่เกมไม่สามารถดึงดูดและรักษาผู้เล่นไว้ได้ทำให้การดำเนินการต่อไปไม่คุ้มค่าทางการเงิน การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Sony ในการรักษาความยั่งยืนทางการเงินควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลในการทดลองสร้างสรรค์เกม
นัยสำคัญในอนาคต
การปิดตัวครั้งนี้เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญเกี่ยวกับความท้าทายที่เกมมัลติเพลเยอร์ใหม่ๆ ต้องเผชิญในตลาดที่มีการรวมตัวกันในปัจจุบัน Sony ได้ระบุว่าจะนำบทเรียนที่ได้จาก Concord ไปปรับปรุงความสามารถในการให้บริการเกมแบบไลฟ์เซอร์วิสในอนาคต ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นสำหรับโครงการลักษณะเดียวกันในอนาคต